หุ้นไทยครึ่งปีหลังสดใส KKP วางเป้าดัชนี 1,530 จุด ชี้ราคาไม่แพง ลุ้นกำไรโต 2-3 ปีข้างหน้า

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้นไทยครึ่งปีหลังสดใส KKP วางเป้าดัชนี 1,530 จุด ชี้ราคาไม่แพง ลุ้นกำไรโต 2-3 ปีข้างหน้า

Date Time: 22 ก.พ. 2567 09:03 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) มองตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสเติบโต เเม้ภาพรวมการลงทุนในครึ่งแรกของปี 2567 อาจยังไม่สดใส แต่ผลตอบแทนจะดีขึ้นในครึ่งหลังของปี ตลอดจนการเติบโตของกำไรจะเร่งตัวดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า พร้อมประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปี 2567 ที่ 1,530 จุด หรือเพิ่มขึ้น 10%

แดเนียล มาร์ค ไฟน์แมน นักวางแผนกลยุทธ์การลงทุนหุ้น บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ออกรายงานกลยุทธ์การลงทุนฉบับแรก โดยมองว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสเติบโต เเม้ภาพรวมการลงทุนในครึ่งแรกของปี 2567 อาจยังไม่สดใส แต่ผลตอบแทนจะดีขึ้นในครึ่งหลังของปี ตลอดจนการเติบโตของกำไรจะเร่งตัวดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า


ทั้งนี้ บล.เกียรตินาคินภัทร ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) ณ สิ้นปี 2567 ที่ 1,530 จุด หรือเพิ่มขึ้น 10% จากระดับในปัจจุบัน ด้วยปัจจัยสนับสนุนสำคัญ คือ ราคาหุ้นไทยที่ไม่แพง ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตด้วยแรงหนุนจากปัจจัยเชิงวัฏจักร และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้


ดังนั้น บล.เกียรตินาคินภัทร แนะนำพิจารณาเลือกซื้อหุ้นที่

  1. กำไรในปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่ากำไรในอดีตมาก
  2. ได้ประโยชน์สูงจากการลดอัตราดอกเบี้ย
  3. มีอัตราการถือของนักลงทุนต่างชาติในระดับต่ำ
  4. อยู่อันดับต้นๆ ของการประเมินมูลค่าตาม valuation scorecard ของ บล.เกียรตินาคินภัทร
  5. เป็นหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากเทรนด์การลงทุนรถไฟฟ้า EV


โดยหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่เลือกคือ CPALL, SCB, MINT, TOP, AWC  และหุ้นขนาดเล็ก คือ WHA, OSP, PLANB, SPALI, DIF


อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีปัจจัยความเสี่ยง ได้แก่

  1. การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน
  2. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
  3. ธปท.ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
  4. การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน   


ในรายงานกลยุทธ์การลงทุนดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า A 2-3 Year Upcycle ให้เหตุผลประกอบการวิเคราะห์ ดังต่อไปนี้

  • ราคาหุ้นไม่แพง โดยหากไม่รวมช่วงโควิดและวิกฤติการเงินโลก P/E ของหุ้นไทยที่มีการปรับเชิงวัฏจักร (cyclically-adjusted P/E) อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/B) อยู่ระดับเกือบต่ำสุดในรอบ 20 ปี ในขณะที่ equity risk premium อยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นไทยกำลังซื้อขายที่มูลค่าต่ำสุดในรอบหลายปี
  • โอกาสการเติบโตของกำไร  Real GDP ของไทยในปีที่ผ่านมายังอยู่ในระดับต่ำกว่าแนวโน้มก่อนโควิดอยู่ 10% และกำไรต่อหุ้นหรือ EPS ของ MSCI Thailand ยังตามหลัง GDP อยู่ถึง 26% ดังนั้น ในระยะข้างหน้า EPS น่าจะเริ่มเร่งตัวไล่ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตของ EPS เฉลี่ยต่อปี จะอยู่ที่ 12-15% ในระหว่างปี 2566-2572
  • แรงหนุนจากปัจจัยเชิงวัฏจักร ถึงแม้เศรษฐกิจไทยมีความท้าทายเชิงโครงสร้าง แต่ในระยะสั้นยังได้รับแรงส่งจากปัจจัยเชิงวัฏจักรที่จะกลับเป็นขาขึ้น โดยประเมินว่า 70% ของส่วนต่างระหว่างอัตรากำไรในปัจจุบันกับแนวโน้มก่อนโควิดมาจากปัจจัยเชิงวัฏจักรที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เช่น ภาคการส่งออก รวมถึงภาคการท่องเที่ยว และอัตราดอกเบี้ย และเนื่องจากตลาดหุ้นไทยมีความสัมพันธ์ไปทางเดียวกับวัฏจักรเศรษฐกิจโลกมากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย ทำให้การเติบโตมีโอกาสเร่งขึ้นได้ในระยะปานกลาง รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐที่ล่าช้าไปในช่วงไตรมาสแรกของปี จะกลับมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกในช่วงครึ่งหลังของปี
  • แรงกระตุ้นจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เราคาดว่า ธปท.จะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนสำคัญของตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมักมีผลตอบแทนเป็นบวกในช่วงวัฏจักรขาลงของดอกเบี้ย โดยประเมินเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นปี 2567 ที่ 1,530 จุด หรือเพิ่มขึ้น 10% จากระดับปัจจุบัน และคาดหวังว่าจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในปีต่อไปเมื่อกำไรเริ่มปรับเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน

ทั้งนี้ นายแดเนียล มาร์ค ไฟน์แมน นักวางแผนกลยุทธ์ ผู้นำการออกรายงานดังกล่าวของ บล.เกียรตินาคินภัทร ทำงานวงการการเงินมากว่า 25 ปี ในบริษัทวาณิชธนกิจชั้นนำของโลก และเคยได้รับการเสนอชื่อจากนิตยสารวาณิชธนกิจให้เป็นนักวิเคราะห์หุ้นอันดับหนึ่งของไทย และนักวิเคราะห์หุ้นยอดเยี่ยมในเอเชียแปซิฟิก โดยก่อนมาร่วมงานกับบล.เกียรตินาคินภัทร รับผิดชอบการสรุปสถานการณ์การเงินในเอเชียให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังได้รับปริญญาเอกในภาควิชาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากมหาวิทยาลัยเยล และเป็นผู้เขียนหนังสือประวัติศาสตร์ไทยชื่อ “A Special Relationship”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ