ก.ล.ต.เล็งออก “Security bureau” ป้องกัน “โกงโบรกเกอร์-คอนเนอร์หุ้น” เปิดรับฟังความเห็นเร็วๆ นี้
Date Time: 12 ก.พ. 2567 15:07 น.
Latest
วรัชญา ศรีมาจันทร์ รองเลขาธิการ สายงานด้านธุรกิจตัวกลางและตลาด และธุรกิจจัดการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยกับ Thairath Money ว่า สำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมออกรับฟังความคิดเห็นเกณฑ์กำกับดูแลบริษัทหลักทรัพย์ใหม่ ในเรื่อง Security bureau เพื่อยกระดับการให้ข้อมูลเครดิตในการซื้อขายหุ้น โดยคาดว่าจะเปิดรับฟังความคิดเห็นภายใน 1-2 เดือนนี้
“ก.ล.ต.คาดว่าจะเปิดรับฟังความคิดเห็นเรื่อง Security bureau ภายใน 1-2 เดือนนี้ โดยเกณฑ์ดังกล่าวจะช่วยในการเปิดเผยข้อมูลหลักประกันในแต่ละหุ้นเพื่อนำไปประกอบการให้ข้อมูลเครดิตกับลูกค้าของโบรกเกอร์”
ทั้งนี้กรณีที่เกิดขึ้นกับ บริษัทมอร์รีเทิร์นจำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น MORE ที่มีผู้ขอวงเงินซื้อขายหุ้น MORE ขอเครดิตกับบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งที่กระจุกตัวกันบนหลักประกันเดียวกัน ทำให้เกิดความเสียหายในระบบ เพราะแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ไม่รู้ว่ามีผู้ใช้เครดิตบนหุ้น MORE มากแค่ไหน
สำนักงาน ก.ล.ต.นำปัญหาดังกล่าวไปสู่การปรับกฎเกณฑ์ที่มีความรอบคอบมากขึ้น โดยในด้านแรก คือ การปรับปรุงการเผยแพร่ข้อมูลกลางระหว่างกัน การดำเนินการจัดทำระบบ Security bureau โดยจะเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลของแต่ละโบรกเกอร์เข้ามาที่สำนักงาน
นำข้อมูลหลักประกันของในหุ้นของแต่ละโบรกเกอร์มารวมเข้าด้วยกันและ ก.ล.ต.จะนำข้อมูลดังกล่าวมารวบรวม และเผยแพร่ให้แต่ละบริษัทหลักทรัพย์สามารถนำข้อมูลดังกล่าวที่ได้นำไปประกอบการบริหารความเสี่ยง และปล่อยสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยกระดับการคำนวณหลักประกัน
นอกจากนี้ในกรณีที่ผ่านมาในปัญหาที่เกิดขึ้นในหุ้น MORE มีการขอวงเงินซื้อขายโดยไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพของหุ้น รวมถึงที่ผ่านมามีพฤติกรรมของนักลงทุน หรือผู้ถือหุ้นการซื้อขายหุ้นที่กระจุกตัวในบางกรณี โดยเฉพาะการซื้อหุ้นตัวเดิมแล้วนำมาวางหลักประกัน
เช่น ผู้ซื้อหุ้น A แล้วมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น มีการนำหลักประกันไปวางแล้วกลับมาซื้อหุ้น A ตัวเดิม หากมีการกระจุกตัว เราจะพบว่ากระจุกตัว จะต้องแฮร์คัตหลักประกันมากขึ้น
สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย จะมีการปรับปรุงเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าให้รัดกุมมากขึ้น จากเดิมที่การปล่อยวงเงินการซื้อขายหุ้นถูกกำหนดว่า หากนำพอร์ตมาแสดงกับบริษัทหลักทรัพย์ ก็ให้วงเงินได้ 1 เท่า และนำหุ้นมาวางที่โบรกเกอร์จะได้วงเงิน 3 เท่า รวมถึงลูกค้าซื้อขายด้วยบัญชีเงินสดต้องมีหลักประกันมาวาง 20% ทั้งเงินหุ้น หรือตราสารอื่น โดยไม่มีการประเมินคุณภาพของทรัพย์สิน
โดยหลังจากนี้จะมีการปรับปรุงกฎเกณฑ์ โดยจะพิจารณาหลักประกัน 20% ของการซื้อขายด้วยบัญชีเงินสดเข้มงวดขึ้น โดยมีการแบ่งเกรดของหุ้น โดยหุ้นต้องนำเอาคุณภาพของหุ้นมาประกอบการพิจารณาวงเงิน ถ้าเป็นหุ้นดีก็แฮร์คัตน้อย ถ้าหุ้นมีความเสี่ยงอาจจะแฮร์คัตมาก กำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ชัดเจน
และหากกรณีผู้ถือหุ้นใหญ่บางรายมีพฤติกรรมซื้อหุ้นตัวเดิมซ้ำๆ เช่น หุ้น A เอาหุ้น A มาวางแล้วซื้อแต่หุ้น A เกณฑ์ใหม่ที่กำลังปรับจะเทคแคร์หุ้นที่ผู้ถือใหญ่มาวางเป็นหลักประกันด้วย ปิดช่องโหว่ที่เป็นปัญหาการซื้อกระจุกตัว ป้องกันคอนเนอร์หุ้น.
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
Author
