นักลงทุนต่างจับตาการประกาศกำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วงประกาศผลประกอบการ ซึ่งหนึ่งในหุ้นที่น่าจับตาคือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AOT ที่คาดว่าจะมีการประกาศงบในวันนี้ (12 ก.พ. 2567) นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดกำไรจะสามารถเติบโตได้โดดเด่นจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการเพิ่มขึ้นของรายได้สัมปทาน ขณะที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในเดือนมกราคม-มีนาคม
ล่าสุด AOT ประกาศเปลี่ยนแผนแม่บทการลงทุนขยายสนามบินระยะ 10 ปีใหม่ หลังอุตสาหกรรมการบินกลับมาโตต่อเนื่องจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศพุ่ง โดยจะสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่มในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 180 ล้านคน และลดความแออัด ส่วนสนามบินดอนเมืองเฟส 3 สนามบินภูเก็ตเฟส 2 และสนามบินเชียงใหม่ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 1/67 (ต.ค.-ธ.ค. 2566) เติบโตเด่นที่ 5.0 พันล้านบาท เติบโต 38% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 1,051% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเพิ่มขึ้นของรายได้สัมปทาน ขณะเดียวกัน มองว่ากำไรโตจากการเข้า High Season จากรายได้กิจการการบินที่เติบโตจากรายได้ค่าบริการผู้โดยสารขาออกเป็นหลัก
หากผลประกอบการออกมาตามคาด กำไรปกติงวดไตรมาส 1/67 จะคิดเป็น 23% ของคาดการณ์ทั้งปี 2566/67 ของเราที่ 2.2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 139% จากปีก่อน ขณะที่แนวโน้มงวดไตรมาส 2/67 (ม.ค.-มี.ค. 2567) คาดกำไรปกติฟื้นตัวเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์โดยการให้ส่วนลดการชำระผลตอบแทน และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ที่เป็นฐานต่ำ หากเทียบจากไตรมาสก่อน คาดกำไรปกติโตต่อเนื่องจากช่วง High Season สอดคล้องกับรายงานจำนวนผู้โดยสารรวมเฉลี่ยต่อวันในเดือน ม.ค. เติบโตราว 11% เทียบค่าเฉลี่ยช่วง ต.ค.-ธ.ค. 2566
ทั้งนี้ 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น AOT ปรับตัวลดลงต่ำกว่า เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและตลาดหุ้นไทย (SET) อย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาหุ้น AOT ลดลง 10% เทียบกลุ่มท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 1% และ SET ที่ลดลง 0.2% จาก 2 ประเด็นกดดันสำคัญ คือ การปรับประมาณการลงของตลาดราว 13% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร และความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการในสนามบินจะไม่สามารถชำระค่าตอบแทนได้ตามสัญญา หลัง AOT ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยการขยาย Credit Term การชำระส่วนต่างผลตอบแทนที่คิดตามสัญญาจริงตั้งแต่ เม.ย. 67 รวมถึงภาครัฐจะพิจารณายกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้ากระทบต่อรายได้ King Power ผู้ประกอบการรายสำคัญของรายได้สัมปทาน AOT (สัดส่วน 40-60%)
เบื้องต้นสมมติให้ AOT ให้ส่วนลดค่าสัมปทานในระดับ 20-40% จะส่งผลให้ราคาเหมาะสมปรับเป็น 55-65 บาทต่อหุ้น ในกรณีที่บริษัทสามารถเก็บค่าตอบแทนตามสัญญาจริง หุ้นมี Upside สูงราว 20% แต่หากเกิดการปรับเงื่อนไขและกระทบรายได้ AOT ระดับ 8 พันล้านบาทต่อปี หุ้นจะมี Downside ราว 10% สะท้อนว่าราคาหุ้นปัจจุบันเริ่มมี Risk-Reward ที่น่าสนใจแล้ว
อย่างไรก็ดี คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ลงเป็น 73.00 บาทต่อหุ้น สะท้อนภาวะตลาดที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ราคาหุ้นซื้อขายบน P/E ปี 2567 ที่ 39 เท่า ที่ระดับราคาปัจจุบันเรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้