เคาะราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น NL ผู้ให้บริการสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้างงานอาคารทุกประเภท รวมทั้งการติดตั้งงานระบบวิศวกรรมต่างๆ ที่ราคา 2.60 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทจะเสนอขาย 130 ล้านหุ้น หรือ 26% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 338 ล้านบาท เปิดให้จองซื้อวันที่ 12-14 ก.พ. 67
ทั้งนี้ NL เตรียมนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (PROPCON)/บริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) โดยมีบริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
การกำหนดราคาของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่จะเสนอขายในครั้งนี้ กระทำโดยการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ด้วยวิธีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (Price to Earnings Ratio : P/E) ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 2.60 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเท่ากับ 8.44 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 154.10 ล้านบาท
และคำนวณจากจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังเสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้จำนวน 500,000,000 หุ้น (Fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นประมาณ 0.31 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิดังกล่าว คำนวณจากผลประกอบการในอดีต โดยที่ยังไม่ได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานหรือความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่นักลงทุนควรพิจารณาประกอบการตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ ประมาณ 318.74 ล้านบาท ภายหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหลักทรัพย์ ได้แก่
เพื่อเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ก่อสร้างใหม่ สำหรับใช้ในงานโครงการก่อสร้างที่ยังไม่ได้ส่งมอบ และงานโครงการก่อสร้างใหม่ในอนาคต ประมาณ 50.00 ล้านบาท
เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ อีกประมาณ 268.74 ล้านบาท
บริษัท มีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นเฉลี่ย (CAGR) เพิ่มขึ้นระหว่างปี 2563-2565 เท่ากับ 6.35% บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นเมื่อเทียบกับงวดปีก่อน มีสาเหตุจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามในงวดปี 2565 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารสูงขึ้นจากแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
และสำหรับกำไรสุทธิในงวดเก้าเดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 96.54 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิสูงขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเก้าเดือนแรกของปี 2565 มีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างที่สูงขึ้นจากงวดเก้าเดือนแรกของปี 2565 ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในงวดเพิ่มขึ้น 122.43 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 23.62 ล้านบาท
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้