“เคอรี่” KEX เปลี่ยนเจ้าของ เป็นจังหวะ "ขายหุ้น" นักวิเคราะห์ คาดขาดทุนถึงปี 2568

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“เคอรี่” KEX เปลี่ยนเจ้าของ เป็นจังหวะ "ขายหุ้น" นักวิเคราะห์ คาดขาดทุนถึงปี 2568

Date Time: 7 ก.พ. 2567 15:03 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Latest


หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงเจ้าของใหม่ สำหรับ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX โดย เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) หรือ SFTH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของ S.F. Holding Co (บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น) ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้น KEX จำนวน 1.28 พันล้านหุ้น (หรือ 73.18% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด) ในราคา 5.50 บาท/หุ้น 


โดยในวันนี้ ราคาหุ้นของ KEX ในช่วงเช้า ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 5.50 บาท หรือลดลง 1.79% ในขณะที่ บริษัท วี จี ไอ จำกัด (มหาชน) VGI. ราคาอยู่ที่ 1.72 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 3.61% และราคาหุ้นของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) BTS ปิดที่ 6.05 บาทต่อหุ้น ปรับตัว 0.83% 


โดย VGI. เป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่ 2 ใน KEX จำนวน 269 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 15.45% และ BTS ถือหุ้นอันดับที่ 3 จำนวน 88 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5% 


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ ประเมินว่า การเข้าซื้อดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการประกาศตามเงื่อนไขของ Kerry Logistics Network Limited (KLN) เกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลพิเศษ โดยการจ่ายเงินปันผลในลักษณะเดียวกับหุ้น KEX ที่ถือหุ้นทางอ้อมจำนวน 907.2 ล้านหุ้น (52.1%) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ KEX จาก KLN เป็น SFTH หลังจากการจ่ายเงินปันผลพิเศษ สัดส่วนการถือหุ้นของ SFTH จะอยู่ที่ 26.82% ซึ่งเกินเกณฑ์ 25% ที่กำหนดให้ SFTH ต้องยื่นคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ (73.18%)

อย่างไรก็ตามในด้านผลกระทบกับผลการดำเนินงาน จะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแผนธุรกิจและผลการดำเนินงานของ KEX เรามีมุมมอง neutral ในเรื่องนี้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจาก KLN เป็น SFTH ไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแผนธุรกิจ/กลยุทธ์ การดำเนินงาน และผลการดำเนินงานของ KEX เนื่องจากทั้ง KLN และ SFTH ถือหุ้นส่วนใหญ่โดย S.F. Holding Co


การคาดการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง คาดว่า KEX จะยังคงขาดทุนจนถึงปี 2568

เราคงประมาณการของเรา โดยคาดว่า KEX จะยังคงขาดทุนจนถึงปี 2568 เทียบกับความคาดหวังของบริษัทว่าจะถึงจุดคุ้มทุน EBIT ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567  และกลับมามีกำไรสุทธิในปี 2568 เรามองกลยุทธ์ของบริษัทในแง่ดีในการมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าระดับกลางถึงระดับสูงและลูกค้าอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มรายได้ต่อการฝากขายในขณะที่ดำเนินโครงการลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลของแผน และอัตราการรับรู้การปรับปรุงรายได้ยังคงต้องติดตามกันต่อไป


คงคำแนะนำ “ขาย” สำหรับ KEX โดยมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 4.80 บาท

เนื่องจากเราคงประมาณการกำไรไว้, มูลค่าที่เหมาะสมของเราที่ 4.80 บาท จึงยังคงอยู่ ซึ่งอิงตามวิธี DCF ซึ่งมีการประเมินมูลค่าในปี 2024F และการคาดการณ์ของเราประกอบด้วย WACC 9.5%, CoE 9.5%, Rf 3.2%, พรีเมียมความเสี่ยงด้านตลาด 6.4% และอัตราการเติบโตทางธุรกิจ 1% เนื่องจากราคาหุ้นได้เพิ่มขึ้นมากกว่าราคาเสนอซื้อที่ 5.50 บาท เราจึงมองว่าคำเสนอซื้อที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นโอกาสในการขาย ซึ่งความเสี่ยงที่สำคัญคือ การแข่งขันที่รุนแรง และกำลังซื้อที่ลดลง 

านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ