ส่องหุ้น GFC-SAFE ธุรกิจผู้มีบุตรยาก โตแรงรับคนอยากมีลูกปีมังกร

ธุรกิจสำหรับผู้มีบุตรยากเป็นที่น่าจับตาอย่างมาก เนื่องจากปี 2567 นี้ เป็นปีมังกร และถือเป็นปีมงคลสำหรับการมีบุตร ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็มีนโยบายส่งเสริมการมีบุตรเพื่อเพิ่มจำนวนประชากร และประกาศเป็นวาระแห่งชาติด้วย โดย “Thairath Money” ได้รวบรวมข้อมูลบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย คือ บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น GFC และ บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SAFE พร้อมกับทิศทางผลประกอบการ ว่าจะมีความน่าสนใจแค่ไหน

GFC : บมจ. เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์

มาเริ่มกันที่ บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น GFC ผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร ปัจจุบันมีอัตราส่วน P/E ที่ 34.46 เท่า โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดราว 2.86 พันล้านบาท

สำหรับผลประกอบการของ GFC ย้อนหลัง มีดังนี้

• ปี 2564 มีรายได้ 242.12 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 69.63 ล้านบาท
• ปี 2565 มีรายได้ 276.12 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 65.68 ล้านบาท
• 9 เดือนแรก ปี 2566 มีรายได้ 254.90 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 54.92 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” โดยปรับประมาณการกำไรปี 66 เพิ่มขึ้น 54% สู่ 76 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปีก่อน คาดกำไรไตรมาส 4/66 ราว 20.3 ล้านบาท หรือเติบโต 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทรงตัวจากไตรมาส 3/66 แม้ฐานสูง โดยมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตจากแนวโน้มจำนวนเคสที่เร่งขึ้นต่อเนื่อง และโตแข็งแกร่งสอดคล้องกับเป้ารายได้ของบริษัทที่ปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นมา 3 ครั้ง เป็นผลจากกลยุทธ์ทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีคู่รักดาราหลายรายประสบความสำเร็จในการรักษา ประกอบกับดีมานด์ของการมีลูกให้ทันในช่วงปีมังกร (ปี 2567) ซึ่งจะต้องตั้งครรภ์ช้าสุดในช่วงไตรมาส 4/66 ถึงไตรมาส 1/67

นอกจากนี้ การเลื่อนเปิดสาขาพระรามเก้าทำให้ไม่มีการรับรู้ค่าเสื่อม ประกอบกับรายได้ที่มีแนวโน้มดีกว่าที่คาดเดิม ทำให้เกิด Economies of Scale เราจึงปรับสมมติฐาน อัตรากำไรขั้นต้นทั้งปี 66 เพิ่มขึ้นจาก 43.8% สู่ 48.4% โดยสรุปเราปรับประมาณการรายได้ปี 66 เพิ่มขึ้น 11% สู่ 346 ล้านบาท โต 25% จากปีก่อน และปรับกำไรเพิ่มขึ้น 54% สู่ 76 ล้านบาท โต 15% จากปีก่อน ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน ปรับประมาณการกำไรปี 67 เพิ่มขึ้น 16% สู่ 96 ล้านบาท โต 26% จากปีก่อน แม้สาขาใหม่พระรามเก้า และอุบลราชธานี เสร็จช้ากว่าแผนเดิมที่จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการช่วงปลายไตรมาส 4/66 และไตรมาส 1/67 ตามลำดับ เป็นช่วงต้นไตรมาส 2/67 ทั้ง 2 แห่ง โดยเรายังคงประมาณการรายได้ปี 67 ที่ราว 480 ล้านบาท โต 39% จากดีมานด์ที่ยังคงแข็งแกร่ง

ประกอบกับปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจากับ Agency เพื่อส่งคนไข้ชาวจีนมารับบริการในช่วงไตรมาส 1/67 ซึ่งบริษัทจะปรับพื้นที่ชั่วคราวของสาขาพระรามสาม ในการรองรับกลุ่มลูกค้าดังกล่าว นอกจากนี้ ปรับเพิ่มสมมติฐาน อัตรากำไรขั้นต้น สู่ 49.5% จากเดิมคาด 45.6% จากสาขาใหม่ที่เลื่อนเปิดทำให้รับรู้ค่าเสื่อมราคาและค่าสาธารณูปโภคลดลง รวมถึงการรับลูกค้าชาวต่างชาติผ่าน Agency ซึ่งจะคิดค่าบริการเพิ่มขึ้นราว 20-30% ส่งผลให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้น 16% สู่ 96 ล้านบาท หรือเติบโต 26% จากปีก่อน

SAFE : บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป

บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SAFE ผู้ให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ตั้งแต่ให้คำแนะนำและคำปรึกษา ตลอดจนติดตามผลการปฏิบัติการโดยผู้ดูแลลูกค้าส่วนบุคคล ที่จะช่วยให้ผู้ที่ประสบปัญหามีบุตรยากมีบุตรตามความประสงค์และเติมเต็มครอบครัวโดยใช้เทคโนโลยีที่นำสมัยมีมาตรฐานและความปลอดภัย ปัจจุบันมีอัตราส่วน P/E ที่ 34.59 เท่า โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดราว 6.26 พันล้านบาท

สำหรับผลประกอบการของ SAFE ย้อนหลัง มีดังนี้

• ปี 2564 มีรายได้รวม 559.73 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 78.23 ล้านบาท
• ปี 2565 มีรายได้รวม 726.61 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 161.91 ล้านบาท
• 9 เดือนแรก ปี 2566 มีรายได้รวม 254.90 ส่วนกำไรสุทธิ 149.26 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ความต้องการของลูกค้าชาวไทย-จีนที่มีเป้าหมายจะมีบุตรที่เกิดในปีมังกร (ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 2567 ถึง 28 ม.ค. 2568) มีเพิ่มมากขึ้น ปีมังกรเป็นปียอดนิยมสำหรับคู่รักชาวจีนและเชื้อสายจีนในประเทศอื่นๆ ที่อยากมีบุตรเนื่องจากถือเป็นปีอันเป็นมงคลสำหรับการมีบุตร ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าความต้องการการรักษาภาวะมีบุตรยากจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาส 4/66 และไตรมาส 1/67 ในกลุ่มผู้ที่มองหาปีเกิดอันเป็นมงคลสำหรับบุตรของตน

นอกจากนี้ วันที่ 25 ก.ย. 2566 ยังเป็นวันแรกที่ประเทศไทยเปิดตัวโครงการ "ปลอดวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน" เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและปรับปรุงเศรษฐกิจของประเทศ มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะมีผลกระทบอย่างมากต่อความนิยมของประเทศไทยในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน

อย่างไรก็ดี ประเมินกำไรสุทธิปี 2566 ที่ระดับ 207 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ระดับ 285 ล้านบาท โดย SAFE คือ ผู้นำผู้เล่นระดับไฮเอนด์ค่าบริการรอบการรักษาเฉลี่ย 530,000 บาท/ครั้ง ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 280,000 บาท/เคส อย่างมาก อัตรากำไรขั้นต้นของ SAFE อยู่ระหว่าง 47-57% ในปี 2562-2565 ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างมาก ซึ่งอยู่ระหว่าง 37-49% ดังนั้น เราจึงมองว่า SAFE จะมี premium ที่เหมาะสมปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E ปี 2567 ที่ 19.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มโรงพยาบาลระดับกลางและกลุ่มที่มีบุตรยากอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2567 มี P/E ที่ 26.8 เท่า

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney