SJWD โลจิสติกส์ไทยบุกอาเซียน ทุ่ม 2.4 พันล้าน ถือ หุ้น ANI เพิ่ม ซื้อ SWIFT มาเลเซียเติมเข้าพอร์ต

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

SJWD โลจิสติกส์ไทยบุกอาเซียน ทุ่ม 2.4 พันล้าน ถือ หุ้น ANI เพิ่ม ซื้อ SWIFT มาเลเซียเติมเข้าพอร์ต

Date Time: 5 ก.พ. 2567 10:40 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • SJWD แจ้งรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท Swift Haulage Berhad

Latest


บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SJWD แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท Swift Haulage Berhad ดังนี้


ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 ได้มีมติอนุมัติในหลักการ ได้แก่ (1) ให้บริษัท SJWD ลงทุนซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) (ANI) เพิ่มเติม และ (2) ให้บริษัท JWD Asia Holding Private Ltd. (JWDAH) (บริษัทย่อยที่ SJWD ถือหุ้นทางอ้อมอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 100 ของสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั้งหมด) ลงทุนซื้อหุ้นสามัญในบริษัท Swift Haulage Berhad (SWIFT) ประเทศมาเลเซีย โดยมอบหมายให้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมตัดสินใจราคาสุดท้ายร่วมกันของทั้งสองธุรกรรม ภายในกรอบราคา และเงื่อนไขการลงทุนที่เสนอคณะกรรมการบริษัทในวันดังกล่าว ทั้งนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมได้ตัดสินใจราคาสุดท้ายร่วมกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ธุรกรรมดังกล่าวจึงมีความแน่นอนแล้ว


ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอแจ้งรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท ANI และ SWIFT ข้างต้นดังนี้


1. SJWD ลงทุนซื้อหุ้นสามัญในบริษัท ANI เพิ่มเติมอีกจํานวนประมาณ 231 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 12.50 ของจํานวนหุ้นชําระแล้ว ด้วยวิธีการซื้อในตลาด (Open Market) หรือซื้อบิ๊กล็อต (Big Lot) จากผู้ขายที่ไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ ในราคาไม่เกิน 7 บาทต่อหุ้น โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณไม่เกิน 1,620 ล้านบาท ส่งผลให้ SJWD จะถือหุ้นในบริษัท ANI รวมประมาณร้อยละ 20.12 ของจํานวนหุ้นชําระแล้ว


โดย ANI และบริษัทย่อยและบริษัทร่วมค้า อีกจํานวน 28 บริษัท (รวมเรียกว่า “ANI Group”) ประกอบธุรกิจตัวแทน ขายระวางสินค้าสายการบิน (Cargo General Sales Agent: Cargo GSA) (“GSA”) ให้แก่สายการบินชั้นนํา กว่า 20 สายการบินใน 8 ประเทศและเขตบริหารพิเศษทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งได้แก่ ประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเวียดนาม เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐ ประชาชนจีน ประเทศมาเลเซีย ประเทศกัมพูชา และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครอบคลุมเส้นทาง การบินซึ่งมีปลายทางกว่า 400 แห่งในทุกภูมิภาคทั่วโลก


ทั้งนี้ ผลประโยชน์ทีคาดว่าจะเกิดกับบริษัทฯ ประกอบด้วย (1) จะสามารถรับรู้ผลกําไรของ ANI ตามสัดส่วนที่ SJWD เป็นผู้ถือหุ้น (Equity Income) (2) โอกาสในการเพิ่มรายได้ผ่านการขยายโซลูชันแบบครบวงจรมากขึ้น ให้กับลูกค้าของ ANI (3) โอกาสในการเพิ่มรายได้ผ่านการขยายธุรกิจ Freight ไปในธุรกิจต่างประเทศของ SJWD เช่น มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และจีน เป็นต้น


2. JWDAH (บริษัทย่อยที่ SJWD ถือหุ้นทางอ้อมอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 100 ของสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั้งหมด) ลงทุนซื้อหุ้นสามัญในบริษัท SWIFT ประเทศมาเลเซีย จํานวน 180,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 20.44 ของจํานวนหุ้นชําระแล้ว (ไม่รวมหุ้นทุนซื้อคืน) จากผู้ขายที่ไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ ในราคา 0.63 ริงกิตต่อหุ้น หรือคิดเป็นประมาณ 4.72 บาทต่อหุ้น โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวมประมาณ 113.40 ล้านริงกิต หรือคิดเป็นประมาณ 850 ล้านบาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 7.4943 THB/MYR) 


โดย SWIFT คือผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรขนาดใหญ่ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซามาเลเซีย (Bursa Malaysia) SWIFT ดําเนินธุรกิจโลจิสติกต์มากกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญการขนส่งทางรถ เช่น การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งสินค้าในประเทศ ขนส่งสินค้าข้ามแดน และเป็นผู้ให้บริการนําเข้าและส่งออก

สินค้า (Freight Forwarder) รวมถึงการบริหารคลังสินค้า ครอบคลุมการให้บริการโลจิสติกส์ทั่วประเทศ มาเลเซีย ประเทศไทย และประเทศสิงคโปร์


อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทฯ ประกอบด้วย (1) ขยายฐานด้านโลจิสติกส์ในประเทศมาเลเซีย เพื่อยกระดับบริการของบริษัทฯ ให้ครอบคลุมทั้งอาเซียน (2) ขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมภายในภูมิภาคได้มากยิ่งขึ้น (3) เพิ่มยอดขายและกําไรขั้นต้นจากการ Synergy สําหรับงานขนส่งข้ามชายแดน


ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า คาดกำไรปกติเบื้องต้นในไตรมาส 4/66 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 270-300 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำไรปกติทั้งปี 2566 สูงกว่าที่เราคาดไว้ที่ 764 ล้านบาท อยู่ 14% และประมาณการกำไรปี 2567ที่คาดไว้ที่ 1,106 ล้านบาท มี Upside risk เช่นกัน


ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการ (M&A) อีก 1-2 ดีล ที่คาดว่าจะสามารถปิดได้ภายในปีนี้ เป็น Upside ต่อประมาณการ นอกจากนี้มีโอกาสเข้าลงทุนในโครงการ Long Son ในเวียดนาม ซึ่งจะมีโอกาสได้งานโลจิสติกส์เพิ่มเติม คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 2/67 เป็นอีก Upside risk ของประมาณการปี 2567 เป็นต้นไป 


อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 2567 เพียง 22.9 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 27-28 เท่า คงประมาณการคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 16.70 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” ประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายปี 2567 มีโอกาสปรับขึ้น

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์