เปิด 10 หุ้นต่างชาติขายหนัก สังเวยความเชื่อมั่นสูญหาย ใครถืออยู่ต้องจับตา

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิด 10 หุ้นต่างชาติขายหนัก สังเวยความเชื่อมั่นสูญหาย ใครถืออยู่ต้องจับตา

Date Time: 24 ม.ค. 2567 12:16 น.

Video

สาเหตุที่ทำให้ Intel อดีตยักษ์ใหญ่ชิปโลก ล้าหลังยุค AI | Digital Frontiers

Latest


ตลาดหุ้นไทยถูกเทขายอย่างหนักตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สวนทางกับตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วเอเชียที่อยู่ในขาของการฟื้นตัว โดยปัจจัยสำคัญมาจากความไม่เชื่อมั่นกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย จะเป็นไปตามที่คาดหวัง

โดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานว่า นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยนับจากต้นปี ถึง 23 มกราคม มีการขายสุทธิ -23,297.57 ล้านบาท โดย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี รายงาน ความเคลื่อนไหวการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยพบว่า 10 หุ้นที่นักลงทุนต่างชาติเทขายมากที่สุดจากต้นปี ถึง 23 ม.ค. ได้แก่

  1. CPALL ขายสุทธิ 2,320 ล้านบาท
  2. CPN ขายสุทธิ 1,584 ล้านบาท
  3. SCC ขายสุทธิ 743 ล้านบาท
  4. TISCO ขายสุทธิ 678 ล้านบาท
  5. LH ขายสุทธิ 482.9 ล้านบาท
  6. HANA ขายสุทธิ 466 ล้านบาท
  7. OR ขายสุทธิ 365 ล้านบาท
  8. BEC ขายสุทธิ 343 ล้านบาท
  9. PLANB ขายสุทธิ 207 ล้านบาท
  10. SAWAD ขายสุทธิ 194 ล้านบาท 

โดย กรุงศรี ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย อ่อนตัวแนวรับ 1,345-1,350 จุด เนื่องจากภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่สนับสนุน อีกทั้งผิดหวัง ก.คลังระบุว่า GDP ปี 66 จะเติบโต 1.8% และปี 67 จะเติบโต 2.8% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์และอาจนำไปสู่ ความเชื่อมั่นที่ลดลง และการปรับลด EPS ของตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้ กระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังคงไหลออกจากความไม่แน่นอนทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ จะกดดันภาวะการลงทุนในช่วงนี้

บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ รายงานว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ต้องติดตามการรายงานตัวเลข PMI ทั้งฝั่ง US และ ยูโรโซน ประจำเดือนมกราคม โดยทางด้าน US PMI ภาคการผลิตคาดชะลอตัวลงสู่ ระดับ 47.6 จุดจาก 47.9 จุด 

ขณะที่ US PMI ภาคบริการคาดหวังขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 51.5 จุด จาก 51.4 จุด ส่วนทางด้าน ยูโรโซน คาดภาคการผลิตดีขึ้นสู่ 44.7 จุด จาก 44.4 เช่นเดียวกับภาคบริการที่คาดปรับขึ้นสู่ระดับ 49.0 จาก 48.8 จุด โดยรวมจะเห็นได้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจทั้ง US และ ยูโร โซนมีความคาดหวังจะปรับเพิ่มขึ้น สะท้อนความเสี่ยงต่อภาพเศรษฐกิจถดถอยคาดลดน้อยลงเรื่อยๆ 


ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สอดคล้องกับมุมมองการดำเนินนโยบายทางการเงินทั้ง US และ ยูโรโซน จะยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยในระยะสั้น ซึ่งล่าสุดจากเครื่องมือ FED Watch Tool บ่งชี้ว่าตลาดให้โอกาสลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ เลื่อนไปเป็นเดือนพฤษภาคม จากคาดการณ์ เดิมที่เดือนมีนาคม

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์