หุ้นท่องเที่ยวปลุกเศรษฐกิจไทย

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หุ้นท่องเที่ยวปลุกเศรษฐกิจไทย

Date Time: 19 ม.ค. 2567 05:11 น.

Summary

  • ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยมาตลอด หลายฝ่ายฝากความหวังว่า ปีนี้ภาคท่องเที่ยวจะช่วยปลุกเศรษฐกิจของประเทศได้

Latest

คนไทยลงทุนหุ้นสหรัฐฯ พุ่ง Webull โชว์ยอดเปิด 6 เดือนทะลุแสนบัญชี เล็งบริการ DCA - AI เพิ่ม

ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยมาตลอด หลายฝ่ายฝากความหวังว่า ปีนี้ภาคท่องเที่ยวจะช่วยปลุกเศรษฐกิจของประเทศได้ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า ปี 2567 ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 88% ของช่วงก่อนเกิดโควิด นอกจากนี้ ยังมีผลสำรวจจาก Dragon Trail International บริษัทด้านการตลาดในจีน พบว่าไทยยังเป็น 3 อันดับแรกที่คนจีนอยากมาเที่ยว

บทความเรื่อง “ทำไมกลุ่มท่องเที่ยวน่าสนใจสำหรับลงทุน” จากเว็บไซต์ SETINVESTNOW เขียนโดย คุณวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พาย จำกัด (มหาชน) ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุน ต้องพิจารณาประกอบการตัดสินใจลงทุน เพราะการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน สร้างรายได้ให้กับธุรกิจต่างๆ สามารถแบ่งเป็นสัดส่วนหลักๆ ได้แก่ ที่พัก คิดเป็น 28% ของค่าใช้จ่ายรวม, การซื้อสินค้าหรือช็อปปิ้ง 24% ของค่าใช้จ่ายรวม เมื่อพิจารณา ด้านการลงทุนแล้ว จะมีหุ้นหลายอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์ ประกอบด้วย

1.สนามบิน (AOT) AOT เป็นเจ้าของสนามบินที่ครอบคลุมมากสุดในไทย ได้แก่ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินเชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ และเชียงราย โดยมีรายได้จากค่าบริการขึ้นลงของเครื่องบิน ค่าบริการผู้โดยสารขาออก รวมไปถึงรายได้ที่ไม่ได้มาจากการบิน เช่น ส่วนแบ่งรายได้จากร้านอาหารและร้านสินค้าปลอดภาษี สิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณา คือ จำนวนนักท่องเที่ยวเพราะรายได้ของ AOT ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยว

 2.สายการบิน (AAV) สายการบินเป็นอีกกลุ่มที่ได้ประโยชน์ แต่อาจจะไม่ตรงเท่ากับกลุ่มสนามบิน เพราะผู้บริโภคมีหลายสายการบินที่เป็นทางเลือก ปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา คือจำนวนนักท่องเที่ยว, คู่แข่งรายใหม่ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจสายการบิน

3.โรงแรม (AWC, CENTEL, ERW, MINT) ปัจจัยหลักที่มีผลกระทบ ได้แก่ อัตราการเข้าพัก รายได้ต่อห้อง และบางโรงแรมที่มีร้านอาหาร จึงควรพิจารณาการเติบโตของยอดขายต่อสาขา รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของต้นทุนอาหาร ทั้งราคาหมู ไก่ ผัก ผลไม้

4.ค้าปลีก (BJC, CPALL) การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นอุปสงค์ ดังนั้น สิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณา คือการเติบโตของยอดขายต่อสาขา, จำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการยอดขายต่อใบเสร็จ และภาวะเศรษฐกิจมหภาค

5.ร้านอาหาร (AU, M) ร้านอาหารตามศูนย์การค้าจะได้ประโยชน์ เพราะการเดินศูนย์ การค้าของไทยเป็นอีกกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชอบ นักลงทุนจึงต้องดูการเติบโตของรายได้ ผ่านการขยายตัวของยอดขายต่อสาขา รวมถึงต้นทุนในการประกอบธุรกิจ ทั้งวัตถุดิบและค่าแรง

ทั้งนี้ เมื่อดูจากดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Index) แล้ว หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว มีมูลค่ากิจการรวมกัน คิดเป็น 9% ของมูลค่าตลาดรวม ดังนั้น หากผลประกอบการในกลุ่มท่องเที่ยวเติบโต ก็จะส่งผลบวกต่อ SET Index

ปิดท้ายนักลงทุนควรหมั่นศึกษาและติดตามข้อมูลตัวเลขการท่องเที่ยวจากกระทรวงท่องเที่ยวฯ ตลอดจนข่าวสารต่างๆที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นท่องเที่ยว เช่น สงคราม โรคระบาด ภัยธรรมชาติ เพื่อจับจังหวะการลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว.

คุณนายพารวย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ