หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 33.50 บาท ลบ 0.75 บาท, AOT ปิด 62.50 บาท ลบ 0.50 บาท, KBANK ปิด 131.50 บาท ลบ 1 บาท, GULF ปิด 45.25 บาท บวก 0.25 บาท, BBL ปิด 150 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
มีมุมมองบทวิเคราะห์การเลือกตั้งไต้หวัน ที่นาย “ไล่ ชิง-เต๋อ” จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ชนะการเลือกตั้งกว่า 5 ล้านเสียง เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ส่งผลให้โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ประเมินถึงกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากกรณีนี้
บล.กรุงศรี พัฒนสินฯ ระบุว่า พรรค DPP (สนับสนุนไต้หวันแยกออกจากจีน) นำโดยไล่ ชิง-เต๋อ (Lai Ching-te) มีคะแนนนำอันดับ 1 อยู่ที่ 40.1% ทำให้เป็นประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่ อย่างไรก็ตาม คะแนนการเลือกสภานิติบัญญัติ หรือ สส.ในรอบนี้ไม่มีพรรคใดได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือ 57 ที่นั่งขึ้นไป โดย DPP ได้คะแนนเพียง 51 ที่นั่ง ต่ำกว่าพรรค KMT ได้ 52 คะแนน ถัดมาคือพรรคประชาชนไต้หวันหรือ TPP ได้คะแนน 8 ที่นั่ง
กรุงศรี พัฒนสินฯ ประเมินว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม และมองความเสี่ยงของการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ อาจประสบปัญหาการผ่านงบประมาณและร่างกฎหมาย โดยรวมประเมินไต้หวันมีความเสี่ยง outflow risk แต่ในทางตรงข้ามมองว่าดีต่อ South East Asia ประเทศอื่น และมองบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม อาทิ AMATA, WHA
ด้าน บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ชี้ว่า DPP มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ จะทำให้ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์เร่งตัวขึ้น เป็นบวกต่อแนวโน้มการย้ายฐานผลิตออกจากไต้หวัน-จีน บวกต่อกลุ่มนิคมฯของไทย ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA, PIN ขณะที่ บล.กสิกรไทย มองไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่จะได้ประโยชน์จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ที่ย้ายออกจากจีน-ไต้หวัน จาก DPP มีนโยบายคัดค้านการรวมไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่ จึงหนุนการย้ายฐานผลิตออกจากจีนและไต้หวัน มองกลุ่มนิคมฯได้ประโยชน์ ได้แก่ WHA ให้ราคาพื้นฐาน 5.70 บาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองว่าอาจเพิ่มความตึงเครียดให้ตลาดหุ้นเอเชีย โดยผลกระทบต่อหุ้นมองกลุ่มเทคโนโลยี HANA, KCE, DELTA เพราะไต้หวันเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลก!!
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม