หุ้น OSP “โอสถสภา” เครื่องดื่มชูกำลัง แข่งขันรุนแรง เมียนมา การเมืองไม่นิ่ง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้น OSP “โอสถสภา” เครื่องดื่มชูกำลัง แข่งขันรุนแรง เมียนมา การเมืองไม่นิ่ง

Date Time: 9 ม.ค. 2567 17:12 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ถูกเทขายหนักในช่วงการซื้อขายบ่ายวันนี้ โดยราคาOSP  ปิดการซื้อขายที่ 21.50บาท ลดลง 4.87% โดยนักวิเคราะห์ประเมิน เกิดจากการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง และในขณะเดียวกัน ตลาดเมียนมาเริ่มมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น 


นักวิเคราะหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของไทยดูเหมือนจะอิ่มตัว เนื่องจากแทบไม่มีการเติบโตของปริมาณขาย (off-trade) ตั้งแต่ปี 2557-2565 ซึ่งจากการที่ลูกค้าหลักจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ทำให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างจำกัด โดยส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของ OSP ลดลงหลังจากปรับขึ้นราคาในเดือน มี.ค. 65 และการแข่งขันที่รุนแรงจากการส่งเสริมการขายอย่างหนักจากคู่แข่ง ทำให้ OSP ยากที่จะชิงส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมาให้สูงเหมือนเดิม

ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองในเมียนมา และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจาก CBG ซึ่งเตรียมเปิดโรงงานผลิตในไตรมาสที่ 2 จะสร้างแรงกดดันต่อยอดขายของ OSP

ทั้งนี้ ทิศทางของกำไรสุทธิของ OSP ในปี 66 มีแนวโน้มฟื้นตัว 33% จากปีก่อน และในปี 2567 เติบโต 10% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากราคาพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ประกอบกับประสิทธิภาพที่ดีขึ้นจากการปิดโรงงานผลิตแก้วเก่า โดยกำไรหลักในปี 66 เติบโต 19% และในปี 67 จะเติบโต 24%  จากปีก่อน ในปี 66/67 ส่วนยอดขายในปี 66 คาดว่าจะลดลง 4% จากปีก่อน ก่อนที่ปี 67 จะฟื้นตัว 6% จากปีก่อน จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ค่อยๆ ดีขึ้นจากการส่งเสริมการขาย และแคมเปญการตลาดที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการฟื้นตัวของส่วนแบ่งการตลาดน่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง


อย่างไรก็ตาม ราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF อยู่ที่ 24.8 บาท ซึ่งคิดเป็น P/E ปี 67 ที่ 26.4 เท่า ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ P/E ปี 67 ที่ 24 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในหมวดอาหารและเครื่องดื่มต่างประเทศ รวมทั้งในไทยซึ่งอยู่ที่ 21-22 เท่า ในแง่ของ EPS ในปี 67 เราคาดว่า OSP มีอัตราการเติบโต 10% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มในไทยที่เติบโต 19% ส่วน ROE ของ OSP อยู่ที่ 15% เทียบกับ 24% ของกลุ่ม 


โดยเราแนะนำถือ OSP ราคาเป้าหมาย (DCF) 24.80 บาท (WACC 7.7%,G. 2%) ต้นทุนพลังงานที่ลดลงและประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้น จะหนุนกำไรเติบโต แต่ยอดขายจะยังคงอ่อนแอ เราประเมินว่าธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังยังคงมีความท้าทาย เนื่องจากการเติบโตของตลาดที่จำกัดและการแข่งขันรุนแรง หุ้น OSP ซื้อขายที่ P/E ปี 67 ที่ 24 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอาหารที่ 21-22 เท่า ขณะที่การเติบโตของ EPS และ ROE ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม OSP ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4% อีกทั้งหุ้นถูก de-rate เทียบกับ P/E เฉลี่ยในอดีตที่ 36 เท่า เราชอบ SNNP (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 24 บาท) มากกว่า เนื่องจากแนวโน้มกำไรเติบโตชัดเจน


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ