นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย หลังวานนี้ นายกรัฐมนตรีประกาศว่า ไทยและจีนจะมีการลงนามในข้อตกลงปลอดวีซ่าทวิภาคี ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในเดือนมีนาคม 2567 ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งสองประเทศ สามารถไปกลับได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าซึ่งกันและกัน ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ต่างคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AOT
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยปรับตัวเพิ่มข้ึน 20% จากเดือนก่อน ในเดือน พ.ย. 2566 มาอยู่ที่ 2.6 ล้านราย และเพิ่มขึ้น 22% จากเดือนก่อนในเดือน ธ.ค. 2566 มาอยู่ที่ 3.2 ล้านราย ส่งผลให้ยอดรวมในปี 2566 อยู่ที่ 28 ล้านราย เมื่อมองไปข้างหน้า ข้อตกลงทวิภาคีไทย-จีนปลอดวีซ่าฉบับใหม่ จะหนุนจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทย เริ่มตั้งแต่เดือน มี.ค. 2567
โดยข่าวดีสำหรับกลุ่มท่องเที่ยว มาจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ดีและมาตรการจากภาครัฐ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เพิ่มข้ึนอย่างรวดเร็วในเดือน ธ.ค. 2566 ดูเป็นแนวโน้มดีต่อการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนในปี 2567 และในวันที่ 2 ม.ค. 2567 นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ประกาศว่า ไทยและจีนจะมีการลงนามในข้อตกลงปลอดวีซ่าทวิภาคี ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในเดือน มี.ค. 2567 เราเชื่อว่าการเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าแบบถาวร จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเลือกที่จะมาประเทศไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้บริหาร AOT คาดว่าปริมาณเที่ยวบินมายังประเทศไทยจะเพิ่มข้ึน ซึ่งน่าจะเร่งการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปัจจุบัน AOT คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีน 8 ล้านรายในปี 2567 มากกว่าสองเท่าของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน 3.5 ล้านรายในปี 2566 และคาดว่าจะแตะ 11 ล้านราย หรือมากกว่านั้นในปี 2568 หรือเท่ากับตัวเลขปี 2562
ความคาดหวังของผู้บริหารในปี 2567 นั้น สูงกว่าประมาณการของเราในปี 2567 ที่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะอยู่ที่ 5 ล้านราย ซึ่งได้ออกก่อนการประกาศมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้รับฟังข้อมูลจากผู้บริหารอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในงาน Thai Corporate Day ในสัปดาห์หน้า
สำหรับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เราชอบ AOT มากที่สุดในกลุ่มฯ โดยแนะนำซื้อจากประเด็นสำคัญ ได้แก่ เป้าหมายปริมาณผู้โดยสารของ AOT ในปี 2567 รายได้จากสัมปทาน และการลงทุนใหม่
ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มองประเด็นดังกล่าวเป็นบวกเล็กน้อยต่อกลุ่มท่องเที่ยว การที่จีนจะให้ฟรีซ่ากับนักท่องเที่ยวไทยแบบถาวร (ค่าวีซ่าไปจีนแบบขาเดียวอยู่ที่ 750 บาท) ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจะส่งผลดีต่อกลุ่มการบิน ได้แก่ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AAV, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AOT และกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BAFS
ขณะเดียวกัน การที่ไทยจะยกเลิกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนแบบถาวร จะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นได้ดี ทั้งนี้ ปี 2566 กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมีสัดส่วนอยู่ที่ 13% หรือ 3.5 ล้านคน โดยหุ้นกลุ่มโรงแรมจะได้รับผลบวกจากมาตรการนี้จากมากไปน้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวประเทศไทย ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR
อย่างไรก็ดี ตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมปี 2566 ทำได้ที่ 28 ล้านคน ถือว่าดีกว่าที่เราคาดเล็กน้อยที่ 27.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 11 ล้านคน ขณะที่เราคาดจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2567 จะอยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 5.5 ล้านคน จากปี 2566 ที่ 3.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 57% จากปีก่อน โดยเราคาดว่าการประกาศยกเลิกวีซ่าจีนมาไทยแบบถาวร อาจทำให้นักท่องเที่ยวจีนอาจจะสูงกว่าที่เราคาดเดิมเล็กน้อย
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่