รู้จัก ADVICE ร้านไอทีชื่อดัง เตรียมเข้าตลาดหุ้น มีรายได้จากไหนบ้าง?

นักลงทุนต่างจับตามองหุ้นไอพีโอที่เตรียมจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2567 นี้ หลังปรากฏรายชื่อหุ้นที่น่าสนใจต่อแถวเข้าจดทะเบียนจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นคือ บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ADVICE ร้านไอทีชื่อดัง ที่พร้อมจะเป็นสมาชิกใหม่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้ “Thairath Money” จะพาทุกคนมารู้จัก ADVICE ว่า ร้านไอทีรายใหญ่เจ้านี้มีรายได้จากไหนบ้าง และมีการเติบโตอย่างไร 

รู้จัก ADVICE ร้านไอทีชื่อดัง

ADVICE ประกอบธุรกิจจำหน่ายปลีก-ส่งสินค้าไอที เช่น คอมพิวเตอร์ประกอบ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมถึงสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ผ่านช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ และให้บริการหลังการขายที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร

โดยที่ผ่านมา บริษัทมีสัดส่วนรายได้หลัก แบ่งเป็น 5 ธุรกิจ ได้แก่ 

1. ธุรกิจค้าปลีก ผ่านสาขา 38.4%
2. ธุรกิจค้าปลีก ผ่านออนไลน์ 20.9%
3. ธุรกิจค้าส่ง 35.9%
4. ธุรกิจลูกค้าองค์กร 4.1% 
5. ธุรกิจบริการ 0.7%

ทั้งนี้ บริษัทมีสาขาทั้งหมดรวม 338 สาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 101 สาขา ภาคเหนือ จำนวน 77 สาขา ภาคกลาง จำนวน 47 สาขา ภาคใต้ จำนวน 36 สาขา ภาคตะวันออก จำนวน 33 สาขา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 19 สาขา และสาขาใน สปป.ลาว จำนวน 25 สาขา

นอกจากการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางสาขา บริษัทฯ ยังจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ www.advice.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์หลักของบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซสายไอทีอันดับ 1 ที่มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดของประเทศ และต่อมาบริษัทฯ ได้ขยายสู่การวางจำหน่ายสินค้าในอี-มาร์เก็ตเพลสต่างๆ เช่น Shopee และ Lazada และมีนโยบายพัฒนารูปแบบการขายในแต่ละช่องทาง ทำให้มีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน ADVICE ถือเป็นหนึ่งในสี่ (BIG4) ของบริษัทผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย 

ส่องผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง

สำหรับผลประกอบการในปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 12,541.2 ล้านบาท และมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 396.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Margin) เท่ากับ 3.16% โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในปี 2563 จำนวน 233.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 1.86%

ต่อมาในปี 2564 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 14,305.8 ล้านบาท และมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน  660.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Margin) เท่ากับ 4.62% โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในปี 2564 จำนวน 233.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 3.01%

และปี 2565 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 14,388.2 ล้านบาท และมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 401.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Margin) เท่ากับ 2.79% โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในปี 2565 จำนวน 430.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 1.43%

ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 10,336.5 ล้านบาท และมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 283.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Margin) เท่ากับ 2.75% โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 จำนวน 136.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 1.32%

เตรียมเข้าตลาดหุ้น ขยายธุรกิจ

ADVICE เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 170,000,000 หุ้น คิดเป็น 27.42% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขาย โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) 0.50 บาทต่อหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

โดยวัตถุประสงค์การใช้เงิน บริษัทจะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปลงทุนขยายธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการขยายสาขาของบริษัทฯ และการปรับปรุงสาขาเดิมของบริษัทฯ มีระยะเวลาการใช้เงินโดยประมาณ ในปี 2567-2568 อีกส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน มีระยะเวลาการใช้เงินโดยประมาณในปี 2567 และใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อสินค้า และเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ มีระยะเวลาการใช้เงินโดยประมาณในปี 2567-2568 และลงทุนปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระยะเวลาการใช้เงินโดยประมาณในปี 2567-2570

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment