รังสรรค์ พวงปราง เลขานุการ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จํากัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนโดยเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ไพศาล แคปปิตอล จํากัด (“ไพศาล”) จํานวน 50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 33.33 ของจํานวนหุ้นที่ออกและจําหน่ายได้แล้วทั้งหมดของไพศาล มีมูลค่าลงทุน 825,000,000 บาท
โดยแหล่งที่มาของเงินทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียนภายในของบริษัท ไพศาลเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง สินเชื่อเพื่อหมุนเวียนธุรกิจ และสินเชื่อ Refinance โดยการเข้าซื้อหุ้นของไพศาลมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการเติบโต สร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน และต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจของบริษัท เพื่อขยายความหลากหลายของบริการให้ลูกค้าอยู่ดีมีสุข
ทั้งนี้ การทํารายการดังกล่าวไม่เป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาขนาดของรายการไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่จะต้องเปิดเผยข้อมูล ตามประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทํารายการที่มีนัยสําคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูล และการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทคงประมาณการกำไรสุทธิของ PTG ในปี 2566 เอาไว้ที่ 994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2565 เพราะเราคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 จะสูงกว่า 500 ล้านบาท โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จะมาจากคาดปริมาณยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,550 ล้านลิตร
โดยปริมาณดังกล่าวเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปี 2565 และค่าการตลาดน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.90 บาท/ลิตร นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช่ น้ำมันจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เพราะยอดขายของร้าน Max Mart และร้านกาแฟพันธุ์ไทยสูงขึ้นตามจำนวนรถที่มาใช้บริการสถานีบริการน้ำมันแบรนด์ PTG ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ที่เพิ่มขึ้น
ในขณะเดียวกัน เรายังคงประมาณการกำไรปี 2567 เอาไว้เท่าเดิมที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากปริมาณยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นหลัก โดยเราใช้สมมติฐานว่าปริมาณยอดขายน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า เป็น 6,300 ล้านลิตรในปีหน้า จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย
หลังจากที่นักวิเคราะห์กลุ่มท่องเที่ยวของ KGI ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า เป็น 32 ล้านคน จาก 27.5 ล้านคนในปี 2566 นอกจากนี้ เรายังคาดว่าค่าการตลาดน้ำมันของ PTG ในปีหน้าจะอยู่ที่ 1.70 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นขอบล่างของระดับปกติ (1.70-1.80 บาท/ลิตร) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงในปีหน้า
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่