หุ้น OR อาจยังเป็น “โอกาส” โบรกฯ เชียร์ซื้อ รับการเติบโตปี 67 ปริมาณขายน้ำมันสูง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้น OR อาจยังเป็น “โอกาส” โบรกฯ เชียร์ซื้อ รับการเติบโตปี 67 ปริมาณขายน้ำมันสูง

Date Time: 28 ธ.ค. 2566 07:00 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • จับตาหุ้นบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น OR สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจและผลประกอบการในปี 2567 ว่าจะเป็น “โอกาส” ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนได้หรือไม่ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์เชียร์ ซื้อ รับโอกาสเติบโตปี 2567 คาดปริมาณขายน้ำมันสูง

นักลงทุนต่างจับตาหุ้นของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น OR สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจและผลประกอบการในปี 2567 ว่าจะเป็น “โอกาส” ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนได้หรือไม่


สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในปี 2566 นั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 20 บาท ปรับตัวลดลงจากต้นปี 3.80 บาท หรือลดลง 15.97% ณ วันที่ 19 ธันวาคม ด้านข้อมูลจากสมาคมนักวิเคราะห์ระบุว่า มีนักวิเคราะห์ให้แนะนำ “ซื้อ” จำนวน 7 โบรกเกอร์ แนะนำ “ถือ” จำนวน 6 โบรกเกอร์ และแนะนำ “ขาย” จำนวน 1 โบรกเกอร์ โดยให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 27.00 บาท และต่ำสุดที่ 18.00 บาท


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้นอีก 15% เป็น 1.34 หมื่นล้านบาท และปี 2567 ขึ้นอีก 12% เป็น 1.43 หมื่นล้านบาท เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันดีขึ้น โดยปรับเพิ่มสมมติฐานค่าการตลาดน้ำมันของ OR ปี 2566-2567 ขึ้นจากสมมติฐานเดิม 5% เป็น 1.05 บาท/ลิตร เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันในไตรมาส 3/66 อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 1.26 บาท/ลิตร


นอกจากนี้ ยังมองบวกกับการที่ผู้บริหารบริหารจัดการค่าการตลาดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้อยู่ที่ระดับประมาณ 1.00 บาท/ลิตรในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2566 แม้ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะลดลงในไตรมาส 2/66 และรัฐบาลจะสั่งให้ลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง 2.00 บาท/ลิตร เมื่อวันที่ 20 กันยายน


แต่อย่างไรก็ตาม ปรับลดสมมติฐานปริมาณยอดขายน้ำมันของ OR ปี 2566 และปี 2567 ลง 1% เหลือ 28,000 ล้านลิตร และ 29,361 ล้านลิตร ตามลำดับ หลังจากที่นักวิเคราะห์กลุ่มท่องเที่ยวของ KGI ปรับลดประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2566 ลงมาอยู่ที่ 27.5 ล้านคน จากเดิม 28 ล้านคน และปี 2567 ลงมาอยู่ที่ 32 ล้านคน จากเดิม 34 ล้านคน นอกจากนี้ ยังปรับลดสมมติฐานปริมาณยอดขายกาแฟปี 2566-2567 ลง 1% เหลือ 370 ล้านแก้ว และ 380 ล้านแก้วตามลำดับอีกด้วย


นอกจากนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 26.00 บาท จากเดิม 25.50 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับเพิ่มประมาณการกำไร หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่เร่งศึกษาและแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อคุมค่าการตลาดน้ำมันทุกประเภทไม่ให้เกิน 2.00 บาท/ลิตร ขณะเดียวกันได้เพิ่ม OR เข้ามาในพอร์ตหุ้นเด่นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากคาดว่ากำไรในไตรมาส 4/66 จะสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเผชิญแรงกดดันน้อยลงจากการคุมเข้มค่าการตลาดน้ำมันเบนซินในประเทศไทย หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงในไตรมาสนี้


ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มีมุมมองเชิงลบเล็กน้อย ต่อข้อมูลในที่ประชุมนักวิเคราะห์ในส่วนของการเป้าขยายสาขาทั้งธุรกิจ Mobility และธุรกิจ Lifestyle ที่เป็นเชิงรุกน้อยลงในปี 2567 ของบริษัท สะท้อนแนวโน้มการแข่งขันในตลาดที่อยู่ในระดับสูง และอาจส่งให้ตลาดกังวลต่อภาพการเติบโตระยะยาว หรือตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป และเป้าการขยายสาขาใน 2567 ของบริษัทต่ำกว่าประมาณการของเรา เบื้องต้นคาดส่งให้ประมาณการกำไรปกติ 2567-2568 อาจมีโอกาสลดลงราว -2% หรือราว 253-384 ล้านบาท แต่ไม่ได้กระทบผลประกอบการปี 2567 อย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากงบลงทุนลดลงด้วย


ทั้งนี้ คงมุมมองกำไรปกติในไตรมาส 4/66 ราว 2.2 พันล้านบาท พลิกกำไรจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากค่าการตลาดที่ฟื้นเป็นราว 1.0 บาท/ลิตร จากไม่ต้องนำเข้าน้ำมันที่มีต้นทุนสูงเหมือนไตรมาส 4/65 ที่โรงกลั่นในประเทศปิดซ่อมใหญ่หลายแห่ง แต่คาดกำไรปกติลดลง 54% จากไตรมาส 3/66 เพราะไม่มี stock gain ก้อนใหญ่และเป็นช่วงไฮซีซั่นของค่าใช้จ่ายพนักงาน รวมถึงไม่มีกลับรายการลูกหนี้เหมือนไตรมาส 3/66 ซึ่งการฟื้นตัวของปริมาณขายน้ำมันราว 6% ไม่พอชดเชย


นอกจากนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 26.50 บาท มองมีโอกาสน้อยที่รัฐจะปรับกฎหมายคุมค่าการตลาดได้ คาดการพิจารณาคืบหน้าในช่วงปลายไตรมาส 4/66 หากรับความเสี่ยงได้ มองเป็นโอกาสซื้อรับการเติบโตในปี 2567 ที่ธุรกิจ Mobility ปริมาณขายโตทั้งสถานีบริการ จากการขยายสาขา และความต้องการใช้ฟื้น และความต้องการใช้เชิงพาณิชย์ของน้ำมันเครื่องบินทยอยฟื้นสู่ภาวะปกติ รวมถึงธุรกิจ Lifestyle ที่ปริมาณขายฟื้นตามเศรษฐกิจและอัตรากำไรเพิ่มจากการลดค่าใช้จ่าย

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ