เป็นที่พูดถึงอย่างมากหลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โพสต์แสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีข้อความว่า “เลิก Program Trading… จะดี” เมื่อคืนวานนี้ ทำให้นักลงทุนต่างจับตามองจากประเด็น Program Trading ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความไม่เท่าเทียมระหว่างนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย และทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่
แมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวนั้น มองว่าทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งต้องถามว่าทำไมถึงอยากให้ยกเลิก แล้วจึงนำข้อดีและข้อเสียมาพิจารณาว่ามีอะไรบ้าง เพื่อหาเหตุผลและความจำเป็นว่าควรยกเลิกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในต่างประเทศ ต่างก็มี Program Trading เช่นกัน อาจสะท้อนว่าการทำธุรกรรมโดยวิธีการดังกล่าวยังมีข้อดี
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในประเทศไทยส่วนใหญ่ มีการใช้ Program Trading แทนการใช้กำลังคนอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นเครื่องมือหนึ่งในการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์เท่านั้น แต่ในแง่ของไอเดียในการลงทุนมองว่า ยังมาจากผู้จัดการกองทุนหรือนักวิเคราะห์อยู่ ซึ่งหากยกเลิกการใช้ Program Trading ก็ไม่แน่ใจว่านักลงทุนต่างชาติจะสามารถลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้หรือไม่
ขณะเดียวกัน หากมีการยกเลิกการใช้ Program Trading ทั้งหมด นักลงทุนต่างชาติอาจต้องหาวิธีการในการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์แบบอื่น เช่น การใช้กำลังคนในการส่งคำสั่งซื้อขายเหมือนเดิม แต่ต้องพิจารณาว่าคุ้มกันหรือไม่สำหรับการลงทุนดังกล่าว
“Program Trading มันคือเครื่องมือที่นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ใช้กัน ซึ่งเขาไม่ใช้คนในการส่งคำสั่งซื้อขายกันแล้ว เพราะเขามีการลงทุนในหลายประเทศ หากใช้เครื่องมือจะสะดวกกว่า แต่กลยุทธ์การลงทุนว่าจะซื้อหรือขายอะไรนั้น จะต้องป้อนข้อมูลและกำหนดโดยนักลงทุน” แมนพงศ์ กล่าว
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment