โอกาสซื้อ? หุ้น CPAXT ร่วงต่ำสุดรอบ 10 ปี โบรกฯ ชี้ “ข่าวหมูเถื่อน” ไม่กระทบกำไร

ความกังวลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งที่ผิดกฎหมาย หรือ “หมูเถื่อน” กดดันความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPAXT อยู่ที่ 26.50 บาท เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับวันที่ 25 มีนาคม 2556 ราคาหุ้นทำระดับต่ำสุดอยู่ที่ 24 บาท โดยราคาหุ้นถือว่าร่วงต่ำสุดในรอบ 10 ปี 

ล่าสุด CPAXT แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ระบุว่า กรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาตรวจค้นบริษัทฯ นั้น เป็นขั้นตอนการให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ โดยที่บริษัทฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งที่ผิดกฎหมาย และในการรับซื้อเนื้อสุกรของบริษัทฯ มีกระบวนการที่รัดกุม และมีการตรวจสอบเอกสารจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน และยืนยันว่าสินค้าที่จำหน่ายในแม็คโครทุกสาขา มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด และยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการตรวจสอบอย่างเต็มที่

ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ต่างให้ความเห็นไว้ในบทวิเคราะห์ว่า กรณีดังกล่าวคาดส่งผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นของบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ยังให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPAXT หลังประเมินแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/66 ที่คาดว่าจะออกมาดี จากปัจจัยฤดูกาล และเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดของปี แต่ยังต้องติดตามความชัดเจนผลกระทบจากประเด็น “หมูเถื่อน” ต่อเนื่อง

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุไว้ในบทวิเคราะห์ว่า กรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าตรวจค้นแม็คโคร เพื่อขอตรวจเอกสารการซื้อขายหมู หลังจากกรรมการบริษัทของ บจ.เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ และบจ.เดอะ กู๊ด ช็อป (เคยเป็นคู่ค้ากับ MAKRO) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมูเถื่อน โดยบริษัทได้ยกเลิกการซื้อเนื้อหมูและเครื่องใน จากคู่ค้ารายนี้ไปแล้ว และการซื้อนั้นมีสัดส่วนน้อยมาก (ราว 390 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดขายรวม 2.5 แสนล้านบาท/ปี ของ MAKRO)

แม้คําแนะนําของเราสําหรับ CPAXT จะยังเป็น “Outperform” ที่ราคาเป้าหมาย 37 บาทต่อหุ้น เนื่องจากเชื่อว่ากําไรในไตรมาส 4/66 จะสดใสขึ้นจากผลบวกของฤดูกาล อย่างไรก็ตามเชื่อว่าประเด็นข่าวนี้เป็นลบในระยะสั้นกับ CPAXT ทั้งธุรกิจค้าส่ง (MAKRO) และค้าปลีก (Lotus’s) ของบริษัท เพราะน่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และอาจยังกดดันราคาหุ้นจนกว่าจะมีความชัดเจนว่า บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบทางคดีจากคดีหมูเถื่อน โดยมีประเด็นที่ต้องติดตาม คือ บริษัทจะตกเป็นผู้รับซื้อของโจร หรือไม่ ซึ่งเป็นคดีอาญา

ขณะที่บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ประเด็นดังกล่าวยังต้องรอข้อสรุป จากข้อมูลที่เรามี ณ ตอนนี้ ในกรณีของ CPAXT ยังสรุปไม่ได้ว่ากระทำผิด เพราะต้องตรวจสอบต่อไปในแง่ข้อเท็จจริงมีการซื้อขายระหว่าง CPAXT กับบริษัทที่ถูกกล่าวหา รวมมูลค่ากว่า 390 ล้านบาท ซึ่งซื้อขายอย่างปกติและเปิดเผย แต่จะต้องมีการพิสูจน์ว่าสินค้านาเข้ามาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่อีกต่อไป

ข่าวนี้น่าจะส่งผลกระทบในแง่ลบเชิง sentiment กับ CPAXT เรายังมองผลกระทบในแง่ตัวเงินน่าจะไม่มากนัก โดยเท่าที่เราตรวจสอบกับทาง CPAXT เอง ยังเห็นระดับการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในเดือนพฤศจิกายนที่ยังคงเป็นบวกอยู่ อย่างไรก็ดี Makro อาจจะเห็นผลกระทบแง่ลบในเชิง sentiment มากกว่า ในขณะที่การสอบสวนยังคงไม่มีข้อสรุปในแง่คำแนะนำแม้เรามีคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 36 บาท แต่เรายังชอบ CPALL มากกว่าในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก จากการเติบโตและมูลค่าที่ถูกกว่า CPAXT

ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา CPAXT ปรับตัวต่ำกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ 13% สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กําไรปกติไตรมาส 3/66 ที่เติบโตในอัตราชะลอตัวลง และอัตรากำไรที่ลดลงในธุรกิจ B2C แต่เมื่อมองต่อไปข้างหน้า เราคาดว่าราคาหุ้น CPAXT จะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากยอดขายในไตรมาส 4/66 ของบริษัท ยังเติบโตสูงกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน และกําไรไตรมาส 4/66 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ยอดขายที่ดีขึ้น และต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ลดลง 

ขณะเดียวกัน คาดว่าไตรมาส 4/66 จะเติบโตได้จากไตรมาส 3/66 เช่นกัน จากปัจจัยฤดูกาล และการจัดตั้งกองทุน TESG (SET ESG rating ของ CPAXT อยู่ที่ระดับ AAA) และการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น ยังคงให้คำแนะนำ “Outperform” สําหรับ CPAXT ด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ที่ 35 บาทต่อหุ้น