หุ้นไทยจ่อฟื้น หลัง “MSCI Rebalance” จบ หวังเม็ดเงิน TESG ไหลเข้าต่อ

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทย หรือ SET Index ในช่วงที่ผ่านมาผันผวนอย่างหนัก ขณะที่เมื่อวานนี้ ดัชนี MSCI มีการประกาศรายชื่อหุ้นไทยที่ถูกคัดเข้าและออกในดัชนี หรือ “MSCI Rebalance” ส่งผลให้มูลค่าซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมาก

ฝ่ายวิจัยฯ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า วานนี้ MSCI มีการ Rebalance หุ้นไทยหนุนให้มูลค่าซื้อขายพุ่งขึ้นแรงเป็น 7.7 หมื่นล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนการซื้อขายจากนักลงทุนต่างชาติสูงถึง 69% สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของปี เป็นรองเพียงวันที่ MSCI Rebalance ตอนสิ้นเดือนพฤษภาคม 2566 ที่สัดส่วนการซื้อขายจากนักลงทุนต่างชาติสูงถึง 75%

อีกทั้งวานนี้มูลค่าซื้อขายผ่านโปรแกรมการส่งคำสั่งซื้อขายแบบอัตโนมัติ (Program Trading) สูงถึง 4.17 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 55% ของมูลค่าซื้อขายรวม และแซงมนุษย์ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม จะสังเกตได้ว่าความผันผวนและมูลค่าซื้อขายต่างชาติพุ่งขึ้นแรง เฉพาะวันที่ MSCI Rebalance แล้ว หลังจากนั้นก็จะลดลงสู่ภาวะปกติ คาดหวังดัชนีตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆ ฟื้นกลับขึ้นมา โดยได้แรงหนุนจากกองทุนไทยที่น่าจะมาเป็นพระเอกผลักดันดัชนีจากการตั้งกองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund) หรือ Thai ESG หวังเม็ดเงินจะเข้ามาหนุนตลาดได้ร้อนแรงกว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 8.4 พันล้านบาท

นอกจากนี้ เชื่อว่าระดับความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นไทยจะลดลง ขณะที่ได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นแรง คาดดัชนีจะฟื้นตัว ประเมินกรอบช่วง 1,370-1,390 จุด โดยแนะนำหุ้นเด่นวันนี้เลือก บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BEM, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPN และบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น WHA