ตลท. ยันไม่มี “Naked Short” ยินดีให้ส่งข้อมูลตรวจสอบ หากพบ มีมาตรการลงโทษหนัก

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยืนยันปัจจุบันไม่พบการขายชอร์ตที่ไม่มีการยืมหลักทรัพย์ หรือ Naked Short Sell ดำเนินการตรวจสอบต่อเนื่อง หากพบจะมีมาตรการลงโทษรุนแรง ส่วนประเด็นขยายเวลาซื้อขายหลักทรัพย์ เตรียมพิจารณาอีกครั้ง หลังมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ยันไม่พบ Naked Short Sell

ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในอดีต ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยมีการตรวจสอบ และพบว่ามีผู้กระทำผิดทำธุรกรรม Naked Short Sell จริง แต่ในปัจจุบัน ยืนยันว่ายังไม่พบการกระทำดังกล่าว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หากนักลงทุนท่านใดสามารถชี้นำ หรือมีกรณีใดที่อยากให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้าไปตรวจสอบเป็นพิเศษ สามารถแจ้งข้อมูลดังกล่าวเข้ามาได้ ซึ่งที่ผ่านมามีการแจ้งเข้ามา 2-3 กรณี ได้มีการตรวจสอบทั้งหมดไปแล้ว ไม่พบว่ามีการทำ Naked Short Sell แต่เป็นเพียงการกระทำของนักลงทุนบางกลุ่มเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทำธุรกรรม Naked Short Sell จริง จะมีมาตรการลงโทษอย่างรุนแรง เหมือนกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นกระบวนการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ

“เรื่องการทำ Naked Short Sell เป็นสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่ยอมให้เกิดขึ้น เรามีการตรวจจับอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง และเหตุผลที่เราได้เรียนมาตลอดว่าเราไม่พบ เป็นเพราะว่าเราตรวจสอบและเรายังไม่พบจริงๆ” ภากร กล่าว

พิจารณา “ขยายเวลาเทรด” อีกครั้ง

ส่วนประเด็นการเสนอให้ขยายเวลาซื้อขายหลักทรัพย์นั้น ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) เสร็จสิ้นแล้ว พบว่ามีทั้งนักลงทุนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในน้ำหนักเท่าๆ กัน 50:50 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องกลับไปพิจารณาแนวทางดังกล่าวอีกครั้ง

ขยายความร่วมมือ DR เพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุน

ภากร กล่าวอีกว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) เดินหน้าเชื่อมโยงการลงทุนต่อเนื่อง ขยายโอกาสผู้ลงทุนเข้าถึงหลักทรัพย์ของ 2 ประเทศผ่าน DR ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ภายใต้ความร่วมมือโครงการ DR Linkage ไทย-สิงคโปร์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนเข้าถึงการลงทุนต่างประเทศได้สะดวก

โครงการ “Thailand-Singapore DR Linkage” เป็นความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงโอกาสการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนระหว่างตลาดหลักทรัพย์เป็นโครงการแรกในอาเซียน โดยทำให้ผู้ลงทุนไทยและสิงคโปร์สามารถที่จะเข้าถึงการลงทุนในอีกตลาดหนึ่งได้อย่างสะดวก ด้วยการซื้อขาย Depositary Receipt หรือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนที่มีอยู่ รวมถึงใช้กฎเกณฑ์และเงินสกุลท้องถิ่น โครงการนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม และตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือดังกล่าวนี้ไปยังตลาดหลักทรัพย์อื่นในอาเซียนเพิ่มเติมในอนาคต

ด้าน หลอ บุญ ไช้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์และตลาดหลักทรัพย์ไทยประสบความสำเร็จในการเชื่อมโยงการซื้อขาย DR โดยตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เปิดซื้อขาย DR อ้างอิงหุ้นไทยแล้ว 3 หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ไทยก็ได้เปิดซื้อขาย DR อ้างอิงหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แล้ว 1 หลักทรัพย์ และคาดว่าจะมีการออก DR เพิ่มเติมอีกในอนาคต ความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์อาเซียนครั้งนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญของการช่วยกันเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระดับภูมิภาค ช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โครงการ “Thailand-Singapore DR Linkage” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกันและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองตลาด นำไปสู่ความร่วมมือต่อเนื่องในอนาคตเพื่อขยายโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนทั้งสองประเทศ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) ได้เริ่มความร่วมมือในโครงการ “Thailand-Singapore DR Linkage” เมื่อปี 2564 เชื่อมโยงการซื้อขาย DR ระหว่างกัน ภายใต้โครงการนี้ ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เปิดซื้อขาย DR อ้างอิงหุ้นไทยแล้ว 3 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) และบมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และในเดือนกันยายนที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดซื้อขาย DR อ้างอิงหุ้น Singapore Airlines (SIA) และมีผู้ออกหลักทรัพย์อยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติเสนอขาย DR หุ้นสิงคโปร์ เพิ่มเติม

ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ มี DR และ DRx จดทะเบียนทั้งสิ้น 18 และ 5 หลักทรัพย์ ตามลำดับ โดยเป็น DR ที่อ้างอิงหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม สหรัฐอเมริกา และประเทศในยุโรป มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ DR และ DRx ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ผู้ลงทุนสามารถศึกษาผลิตภัณฑ์ DR เพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th