KTC ตั้งเป้าสินเชื่อปี 67 โต 10% หวังโครงการ “e-Refund” หนุน ลุยขยายฐานลูกค้ารายได้สูง

นักลงทุนต่างให้ความสนใจ สำหรับแนวโน้มการเติบโตของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KTC หลังรัฐบาลประกาศแนวทางของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นความหวังว่าจะกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ โดยเฉพาะโครงการ “e-Refund” ที่คาดว่าจะเริ่มในเดือนมกราคม 2567

ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC กล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐนั้น จะทำให้การใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อบัตรเครดิตของเราเสมอ โดยในธุรกิจบัตรเครดิต เป็นธุรกิจที่จะเติบโตไปพร้อมกับการจับจ่ายใช้สอย หากประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ก็จะทำให้ธุรกิจของเราดีขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของผลประกอบการปี 2567 จะมีกำไรสุทธิดีกว่าปีนี้ โดยคาดว่าการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตได้ที่ระดับ 10% และมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตที่ระดับ 15% จากปีนี้ จากการดำเนินตามแผนกลยุทธ์การตลาด

แผนกลยุทธ์การตลาดของ KTC ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรได้ตามเป้าหมาย จากการให้บัตรเพิ่มและการทำบัตรเสริม นอกจากนั้น บริษัทเห็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มรายได้สูง (Higher Income) ซึ่งปัจจุบันมียอดการใช้จ่ายเติบโตมากกว่าพอร์ตสินเชื่อโดยรวม ประกอบกับจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

ส่วนปี 2566 บริษัทคาดว่าจะสามารถทำกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนที่ระดับ 7,079 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนแรกทำได้แล้ว 5,534 ล้านบาท และคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตได้ที่ระดับ 15% โดยตั้งเป้าคุมหนี้เสีย (NPL) ที่ระดับใกล้เคียงกับปีก่อนราว 1.8%

ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนออกแคมเปญจำนวนมากในไตรมาสที่ 4/66 จากเป็นฤดูเทศกาลและลูกค้ามีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยจะทำโปรโมชันบนฐานลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตในการรับประทานอาหาร ช็อปปิ้ง การท่องเที่ยว จากการใช้คะแนน ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการจัดแคมเปญดังกล่าวด้วย

พร้อมกันนี้ บริษัทมีแผนการออกบัตรเครดิตใหม่ที่เป็นบัตรดิจิทัล ซึ่งจะไม่ปรากฏตัวเลขบนบัตร และมีตัวเลข CVV เปลี่ยนไปทุกครั้งในการใช้จ่าย ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้ที่มีการใช้งานบัตรบ่อยครั้ง และซื้อของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เนื่องจากเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการทำตลาดต่อเนื่องสำหรับธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากทะเบียนรถแลกเงิน KTC พี่เบิ้ม และบัตรกดเงินสด KTC PROUD โดยเน้นแคมเปญการตลาดที่ดูแลฐานลูกค้าชั้นดี มีวินัยทางการเงิน และชำระเงินตรงเวลา ได้แก่ การทำโครงการเคลียร์หนี้