ความเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือหุ้นไทยวันนี้ ประจำวันที่ 10 พ.ย. 66 วันนี้ พบว่า ดัชนีลดลง 15.40 จุด เปลี่ยนแปลง -1.10% ดัชนีอยู่ที่ 1,389.57 จุด โดยดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นในช่วงบ่าย นำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังนายกรัฐมนตรีประกาศความชัดเจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ ดิจิทัลวอลเล็ต และโครงการ e-Refund ก่อนดัชนีปรับตัวลดลงมาในช่วงปิดตลาด
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่ เป็นผลมาจากแรงเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นหลัก จึงทำให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นนำตลาดในช่วงบ่ายวันนี้
อย่างไรก็ดี มีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต มากขึ้น ประกอบกับโครงการ e-Refund ที่จะออกมาในเดือนมกราคม 2567 ซึ่งเหนือความคาดหมายของตลาด จากตอนแรกคาดจะไม่มีโครงการดังกล่าว โดยมองว่าโครงการ e-Refund คล้ายโครงการ “ช็อปดีมีคืน” ซึ่งโครงการลักษณะดังกล่าว มักจะหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ Outperform
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าคาดแกว่งในกรอบ จากยังอยู่ในช่วงของการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 3/66 โดยคาดว่าแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,390 จุด ส่วนแนวต้านที่ระดับ 1,410 จุด
นอกจากนี้ ยังมองว่าหุ้นกลุ่มค้าปลีกน่าจะ Outperform ได้อีกสักระยะหนึ่ง เพราะมีปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจค่อนข้างชัดเจน โดยแนะนำนักลงทุนให้เลือกลงทุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ยังเคลื่อนไหวช้ากว่าตลาด (Laggard) เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPALL, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BJC และบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPAXT เป็นต้น
ด้าน กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้มองว่าค่อนข้างผันผวน หลังปาฐกถาของ “เจอโรม พาวเวลล์” สะท้อนว่านโยบายการเงินที่เข้มงวดของสหรัฐฯ ยังมีความจำเป็น หากเงินเฟ้อยังไม่ได้ลงมาตามคาดการณ์ กดดันสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ดี จากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หลายแห่ง ทำให้เชื่อว่าจะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว
ส่วนตลาดหุ้นไทยนั้น นักลงทุนเริ่มมีการเก็งกำไรหลังนายกรัฐมนตรีแถลงความชัดเจนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะมีการให้กับคนที่มีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาท และมีเงินฝากต่ำกว่า 500,000 บาท และโครงการ e-Refund ในเดือนมกราคม ส่งผลให้หุ้นค้าปลีก และหุ้นกลุ่มที่อิงกับการบริโภคในประเทศได้รับอานิสงส์เชิงบวก ทำให้ในช่วงบ่ายดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการฟื้นตัวขึ้นมา
สำหรับแนวโน้มทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัว จากทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวลง ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ทำให้ตลาดหุ้นคลายแรงกดดันด้านบอนด์ยีลด์ได้ โดยคาดว่ากรอบในการฟื้นตัวมีแนวต้านอยู่ที่ 1,440 จุด ส่วนแนวรับ 1,375-1,380 จุด
อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล เช่น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CRC, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPAXT และกลุ่มที่อิงกับการบริโภคภายในประเทศ เช่น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MTC, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ADVANC และบริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BE8