ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานว่า บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SABUY แจ้งเรื่องการมีผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ ตามที่บริษัทได้รับรายงานจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ โดย นายอานนท์ชัย วีระประวัติ ได้มีการโอนขายหุ้นจำนวน 20.585 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 1.11 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงภายหลังการหักหุ้นซื้อคืนแล้ว ให้กับ GEM Global Yield LLC SCS (GEM) ซึ่งเป็นกองทุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงาน และโครงสร้างการจัดการของบริษัทฯ แต่อย่างใด
นอกจากนี้ การเข้าซื้อหุ้นลอตแรก จำนวน 20.585 ล้านหุ้น ส่งผลให้ GEM Global Yield LLC SCS ก้าวขึ้นมาติด อันดับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หน่ึงในสิบอันดับแรกของสบาย โดยกองทุน The Global Emerging Markets Group (GEM) จากนิวยอร์กนี้ มีความต้องการลงทุนในสบาย ในมูลค่าไม่เกิน 1,750 ล้านบาท หรือไม่เกินสัดส่วนร้อยละ 19.9 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว และการเข้าลงทุนในหุ้น SABUY กองทุน GEM จะไม่เข้ามาเก่ียวข้องกับการบริหารและไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมในการบริหาร แต่ประการใด
ณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบัญชีและการเงิน (GROUP CFO) บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า GEM มีความสนใจลงทุนใน SABUY โดยให้เหตผุลว่า กองทุนเล็งเห็นถึงโมเดลทางธุรกิจของ SABUY ท่ีเป็นเอกลักษณ์ มีความแตกต่าง มีศักยภาพในการเติบโตอย่างเข้มแข็ง มีโอกาสท่ีมูลค่าบริษัทสามารถเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต ตลอดจนคุณภาพของทีมผู้บริหาร จึงเป็นการตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของ GEM
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก SABUY ไม่มีนโยบายที่จะออกหุ้นใหม่ จึงได้ประสานงานให้เกิดการซื้อหุ้นโดยตรงกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายอื่นของ SABUY โดยผู้ถือหุ้นเหล่านั้นสามารถขายหุ้น SABUY ให้กับ กองทุน GEM โดยทางกองทุนได้ตั้งวงเงินการลงทุนใน SABUY ไว้ในมูลค่าไม่เกิน 1,750 ล้านบาท ซึ่งผู้ถือหุ้นที่ขายหุ้นให้กับกองทุน GEM อาจนําเงินบางส่วนที่ได้ไปใช้ในการแปลงสภาพวอร์แรนท์ ซึ่งเป็นการเสริมความแข็งแรงทางการเงินให้กับ SABUY ยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การเข้ามาถือหุ้นของกองทุนระดับโลกเช่นนี้ นับว่าเป็นผลดีต่อหุ้น SABUY ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ
สำหรับ The Global Emerging Market Group (GEM) เป็นกองทุนที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2534 มีสํานักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ด้วยมูลค่าขนาดการลงทุน 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 122,400 ล้านบาท (คํานวณที่ 36 บาท/1 เหรียญสหรัฐ) GEM ได้บริหารการลงทุนด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่หลากหลาย และที่ผ่านมาได้เข้าลงทุน ใน 570 บริษัท ที่ตั้ง อยู่ใน 70 ประเทศ ใน 5 ทวีป โดยเน้นให้ความสําคัญกับตลาดเกิดใหม่ นอกเหนือจากการลงทุนในบริษัทที่น่าสนใจใน สหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง สําหรับเอเชีย GEM ยังได้เข้ามาลงทุนในบริษัทในประเทศต่างๆ อาทิ จีน สิงคโปร์ อินเดีย และเกาหลีใต้ ในบริษัทที่มีธุรกิจที่น่าสนใจและมีศักยภาพสูง