ภากร รับหุ้นไทยร่วงมากกว่าตลาดอื่น ลุยโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่น IPO ต่ำจองหนักจากภาวะช่วงเข้าเทรด

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ภากร รับหุ้นไทยร่วงมากกว่าตลาดอื่น ลุยโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่น IPO ต่ำจองหนักจากภาวะช่วงเข้าเทรด

Date Time: 26 ต.ค. 2566 18:28 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ ลดลง 30.48 จุด เปลี่ยนแปลง -2.17% ดัชนีอยู่ที่ 1,371.22 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,690.17 ล้านบาท ท่ามกลางความกังวลหลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางยังไม่คลี่คลาย

Latest


ความเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือหุ้นไทยวันนี้ ประจำวันที่ 26 ต.ค. 66 วันนี้ พบว่า ดัชนีลดลง 30.48 จุด เปลี่ยนแปลง -2.17% ดัชนีอยู่ที่ 1,371.22 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,690.17 ล้านบาท ท่ามกลางความกังวลหลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางยังไม่คลี่คลาย


ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ เป็นการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั้งภูมิภาค และยอมรับว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยนั้นมากกว่าประเทศอื่นๆ โดยมองว่าเป็นผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ และทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่กดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวน ขณะที่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีปัญหา


ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนในการเพิ่มความหลากหลายด้านการลงทุน ทั้งประเภทของสินทรัพย์ และลักษณะของบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยในเร็วๆ นี้จะมีการไปโรดโชว์ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหนึ่งของการสร้างความเชื่อมั่น ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ มองว่า ด้วยปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยที่แข็งแกร่ง กำไรที่ดีจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นได้ 


สำหรับประเด็นเรื่องหุ้นไอพีโอ ที่ราคาปรับตัวลดลงแรงในช่วงการซื้อขายวันแรกนั้น มองว่ามาจากภาวะความไม่แน่นอนของตลาด เช่น การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดหุ้นในภูมิภาค และแนวโน้มการลงทุนของนักลงทุน ซึ่งการกำหนดราคาไอพีโอนั้นเป็นช่วงที่ภาวะตลาดยังไม่มีความผิดปกติ แต่ต่อมามีการแปลงไปของสถานการณ์ทำให้หุ้นไอพีโอนั้นๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย เป็นความไม่ปกติ ซึ่งในบางครั้งมีเรื่องของโชคเข้ามาเกี่ยวข้อง


ด้าน อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี หลุดระดับ 1,380 จุด จากแรงขายลดความเสี่ยงของนักลงทุน หลังยังมีความกังวลจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ที่ยังทรงตัวในระดับสูง ประกอบกับเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ


ส่วนปัจจัยในประเทศ มองว่าถูกกดดันจากนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ที่ล่าช้าออกไปมากกว่าคาด โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม จากเดิมที่วางไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมอาจปรับเงื่อนไขทำให้การใช้เม็ดเงินลดลง ซึ่งในแง่บวกจะทำให้ไม่เป็นภาระต่องบประมาณ แต่ในแง่ลบจะทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจลดลง


ทั้งนี้ ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางหลายประเทศ แต่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ให้แนวรับไว้ที่ระดับ 1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด


ด้าน ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากหุ้นของ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น DELTA ที่ปรับตัวลดลง โดยมีอิทธิพลทำให้ดัชนีลดลงราว 8 จุด หรือคิดเป็นเกือบ 30% ของความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้


ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้น DELTA ที่ปรับตัวลดลงมานั้น สอดคล้องกับหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ที่ราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากคืนวานนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดหุ้นไทย


ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อยู่ที่ระดับสูง โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5% ประกอบกับยังมีความกังวลสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางที่ยังมีความยืดเยื้อ


นอกจากนี้ ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในช่วงสร้างฐานใหม่ และคาดว่าจะสามารถกลับตัวได้ชัดเจนในช่วงเดือนธันวาคม โดยแนะนำนักลงทุนให้หาโอกาสเข้าลงทุนเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว หรือดัชนีปรับตัวลดลงมาแรงอย่างวันนี้ เนื่องจากอยู่ในระดับ Valuation ที่น่าสนใจ โดยให้กรอบแนวรับสัปดาห์นี้ไว้ที่ระดับ 1,350 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์