ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ต.ค. 66) เปิดตลาดช่วงเช้าดัชนีร่วงหนัก ณ เวลา 10.13 น. ดัชนีปรับตัวลดลง 16.58 จุด (-1.15%) มาอยู่ที่ 1,421.27 จุด ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังคงดำเนินต่อไป ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังมีสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงและนาน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า ปัจจัยที่กดดันทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงนั้น มองว่ามาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond yield) ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง มาอยู่ที่ระดับ 4.9% ถือเป็นสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 16 ปี หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ออกมาให้ความเห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ น่าจะมีการปรับตัวสูงขึ้นอีก และอยู่ในระดับสูงนานขึ้น
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางยังไม่คลี่คลาย ทำให้เกิดแรงกดดันตลาดหุ้นต่างประเทศ ส่งผลกระทบมายังตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวลดลงด้วย
ทั้งนี้ ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวลงต่อ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ โดยมองกรอบแนวรับวันนี้ที่ระดับ 1,415-1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,445 จุด
อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนให้ “Wait & See” หรือชะลอการลงทุนในระยะสั้น โดยมองว่าระดับดัชนีที่น่าสนใจในการเข้าลงทุนอยู่ที่ราว 1,400 จุด หรือต่ำกว่าเล็กน้อย ซึ่งสามารถเข้าซื้อเก็งกำไร (Trading) ได้ จากมีระดับราคา (Valuation) ที่น่าสนใจ