หุ้น TAN เข้าเทรดเกือบไม่รอด เปิดการซื้อขาย 16.80 บาทบวก 1.8% เซียนหุ้นชื่อดังเข้าถือเพียบ

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้น TAN เข้าเทรดเกือบไม่รอด เปิดการซื้อขาย 16.80 บาทบวก 1.8% เซียนหุ้นชื่อดังเข้าถือเพียบ

Date Time: 18 ต.ค. 2566 11:20 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Latest


ความเคลื่อนไหวการเข้าทำการซื้อขายครั้งแรกของหุ้น บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAN เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai โดย เปิดการซื้อขายที่ 16.80 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาจองซื้อที่ 16.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.8% ทั้งนี้เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์ สไตล์แฟชั่นชื่อดังระดับโลก ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการบริหารแบรนด์สินค้าและบริการระดับลักชัวรี่

              มีแบรนด์สินค้าภายใต้พอร์ตโฟลิโอ  5 แบรนด์หลัก ได้แก่ Pandora เครื่องประดับเงินชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก Marimekko แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นด้านลายพิมพ์และสีสันจากประเทศฟินแลนด์ Cath Kidston สินค้าไลฟ์สไตล์กลิ่นอายโมเดิร์นวินเทจจากประเทศอังกฤษ รวมถึงนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Cath Kidston ในประเทศเวียดนาม HARNN ผลิตภัณฑ์บอดี้แคร์ สกินแคร์ สปา และอโรมาเทอราพี และ Vuudh สินค้าเครื่องหอมสไตล์ไทยร่วมสมัย

 

พบเซียนหุ้น เข้าถือหุ้น TAN เพียบ 

 

อย่างไรก็ตามจากการเปิดรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TAN พบว่า นักลงทุนและเซียนหุ้นชื่อดังเข้าถือจำนวนมาก โดยมี  “เสี่ยนเรศ” นเรศ งามอภิชน, สุระ คณิตทวีกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นอันดับ 3, เซียนฮง สถาพร งามเรืองพงศ์ เซียนหุ้นชื่อดัง เป็นผู้ถือหุ้น อันดับที่ 4 , หมอพงศักดิ์ พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี เซียนหุ้นชื่อดัง ถือหุ้นอันดับที่ 5, ศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ถือหุ้น อันดับที่ 6, ฐปนี ตรีมุทธาพงศ์ ภรรยา ของคุณศุภกิจ ถือหุ้น อันดับที่ 7, เสี่ยปู่ สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เซียนหุ้นชื่อดัง ถือหุ้น อันดับที่ 8, เจษฎา บูรณพันธุ์ศรี กรรมการบริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) NATION ถือหุ้น อันดับที่ 9   

 

อัพไซด์เหลือไม่เยอะ

 

              นักวิเคราะห์หลักทรัพยบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ประเมินว่า อุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์มีการแข่งขันสูง การเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ทำได้ง่าย รวมทั้งผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่รวดเร็ว แต่บริษัทมีจุดแข็งจากการที่แบรนด์สินค้าของบริษัทได้รับความนิยม สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี และสินค้าเป็นสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียมที่ราคาเข้าถึงง่าย จึงเกิดเป็นความจงรักภักดีต่อแบรนด์ (Brand Royalty) ที่สูงตามมาด้วย ประกอบกับค่านิยมคนรุ่นใหม่ที่หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคลและเชื่อมโยงกับกลุ่มสังคม ซึ่งสินค้าของบริษัทตอบโจทย์ความต้องการในส่วนนี้ ทำให้สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดในแต่ละผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาได้ (ในปี 2565 มีส่วนแบ่งตลาด ดังนี้ Pandora ร้อยละ 43, Marimekko ร้อยละ 34.5, Cath Kidston ร้อยละ 23.2 และ HARNN ร้อยละ 16.1)

นอกจากนี้กลยุทธ์การขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มเป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่น่าสนใจ แม้ว่าจะเป็นการขยายไปในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง แต่บริษัทสร้างการรับรู้ประสบการณ์การใช้สินค้าจริงผ่านทาง Marimekko pop-up café และ Cath Kidston Tearoom มาต่อยอดแบรนด์สินค้าให้เกิดคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ส่งผลให้บริษัทสามารถขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามและสปาระดับพรีเมียมมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง และแบรนด์หาญเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นที่ใกล้เคียงกัน แต่มีจุดเด่นในด้านของผลิตภัณฑ์เสริมความงามและสุขภาพที่มีควบคู่ไปกับการให้บริการสปาระดับพรีเมียม ดังนั้นการระดมทุนในครั้งนี้ตามวัตถุประสงค์จึงมีความเหมาะสม 

รายได้ของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง (หากไม่นับปี 2564 ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19) โดยผันแปรตามกำลังซื้อ และสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งจากลักษณะสินค้าของบริษัทที่เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่น พฤติกรรมผู้บริโภคมักเป็นการซื้อตามโอกาส เป็นครั้งคราว หรือตามช่วงเทศกาล โดยสัดส่วนรายได้หลักอยู่ในแบรนด์ Pandora คิดเป็นราวร้อยละ 50 ขณะที่การปรับราคาสินค้าของบริษัทสามารถส่งต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นให้แก่ผู้บริโภคได้ ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น มองว่าในระยะสั้นรายได้จะขยายตัว จากการบริโภคที่ฟื้นตัว และการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะในธุรกิจสปา ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และในระยะยาว หากการขยายธุรกิจเข้าไปสู่ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มมีผลตอบรับที่ดี รวมทั้งบริษัทมีการเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

อัตรากำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง (หากไม่นับปี 2564) ทั้งอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นหลังการบริโภคฟื้นตัว การขึ้นราคาสินค้าและลดความถี่ของการให้ส่วนลด มองว่าระยะสั้น อัตรากำไรสุทธิจะฟื้นตัวตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนขายที่ลดลง แต่อาจถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น จากค่าเช่าที่กลับมาเป็นอัตราปกติ ค่าใช้จ่ายการตลาดและส่งเสริมการขาย รวมทั้งเงินเดือนและสวัสดิการพนักงานที่เพิ่มขึ้น ในระยะยาว อัตรากำไรสุทธิจะขยายตัวตามรายได้ แต่หากมีการขยายสาขาหรือเพิ่มแบรนด์สินค้า คาดว่าค่าใช้จ่ายจะกดดันอัตรากำไรในช่วงแรก

ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ : 1) การเปิดดำเนินการร้านอาหารในเครือของ Gordon Ramsy 2) การเพิ่มยอดขายของแบรนด์กลุ่มหาญ 3) การขยายสาขา 4) การเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่

ความเสี่ยง : 1) การพึ่งพิงสิทธิในการจำหน่ายแบรนด์สินค้าจากต่างประเทศ 2) กำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตามภาวะเศรษฐกิจ 3) การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค จากการประเมินมูลค่าเบื้องต้น 2 วิธี ดังนี้ 1) วิธี PER ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันที่จำหน่ายเครื่องประดับเช่น JUBILE ที่ 13.5x เท่าแต่อยู่ใน mai จะต่ำกว่า IPO และ 2) วิธี PER ของกลุ่มอุตสาหกรรม COMM ที่ 28.3x ได้มูลค่าเหมาะสมที่ 18.50 บาท   

 

 

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์