“สัปเหร่อ” สุดฮอต รอบฉายแน่น จับตา เมเจอร์ รับส่วนแบ่งดันกำไรพุ่ง แถมหนังดังจ่อเข้าฉายเพียบ

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“สัปเหร่อ” สุดฮอต รอบฉายแน่น จับตา เมเจอร์ รับส่วนแบ่งดันกำไรพุ่ง แถมหนังดังจ่อเข้าฉายเพียบ

Date Time: 17 ต.ค. 2566 14:45 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Latest


เป็นกระแสอย่างมากสำหรับภาพยนตร์เรื่อง สัปเหร่อ ผลงานจาก จักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ ที่สร้างรายได้ทะลุ 200 ล้านบาท สร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย และส่งผลต่อผลประกอบการของโรงภาพยนตร์ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย


โดยนักวิเคราะห์จาก บริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ มองว่า โรงภาพยนตร์เมเจอร์ หรือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น MAJOR ได้รับประโยชน์โดยตรง โดยคาดว่า สัปเหร่อ จะเป็นตัวผลักดันกำไรของ MAJOR ในช่วงไตรมาสที่ 4 จากรายได้ที่ทะลุ 200 ล้านบาท และส่วนแบ่งจากภาพยนตร์ไทยที่จะเมเจอร์จะได้ส่วนแบ่งมากกว่าหนังต่างชาติ 


บล.ทิสโก้ ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาสที่ 3 ของเมเจอร์จะอ่อนตัว แต่คาดว่าไตรมาสที่ 4 จะกลับมาดีขึ้นจากหนังสัปเหร่อทะลุ 200 ล้าน แนวโน้มกำไรธุรกิจหลักไตรมาสที่ 3 จะอ่อนตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไม่มีหนังเด่นในไตรมาสนี้ที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท เช่น รายได้ตั๋วหนังในไตรมาสที่ 4 ได้แก่ Mission : Impossible 7 ทำรายได้ 85 ล้านบาท, Oppenheimer 68 ล้านบาท และ MEG2 68 ล้านบาท เทียบกับ 3Q22 ที่มีหนังทำเงิน เช่น บุพเพฯ 2 ที่ทำรายได้ 260 ล้านบาท, Thor4 173 ล้านบาท และ One Piece 81 ล้านบาท


และเทียบกับไตรมาสที่ 2 ที่มีเรื่อง Fast 10 รายได้ 200 ล้านบาท, Guardians of the Galaxy รายได้ 125 ล้านบาท, Transformers รายได้ 124 ล้านบาท เป็นต้น ส่งผลให้รายได้ธุรกิจอาหาร/เครื่องดื่มหน้าโรงภาพยนตร์ คาดว่าลดลงตามรายได้หนังที่ลดลง แต่จะมีรายได้จากการขายผ่าน delivery รวมถึงการขายผ่านร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น ด้านรายได้ค่าโฆษณาคาดว่าลดลงตามรายได้หนัง 


แนวโน้มไตรมาสที่ 4 คาดว่ากำไรจะดีขึ้นจากหนังไทย โดยเฉพาะหนังเรื่องสัปเหร่อล่าสุดทำเงินได้ 225 ล้านบาท (11 วัน) ตามมาด้วยเรื่อง “ของแขก” ทำรายได้ 53 ล้านบาท (18 วัน) ซึ่งหนังไทยจะมีส่วนแบ่งรายได้มากกว่าหนังภาพยนตร์ต่างประเทศ 


ทั้งนี้ในช่วงสิ้นปีพบว่ายังมีหนังต่างประเทศที่เตรียมเข้าฉายหลายเรื่อง ได้แก่ The Marvels 8 พ.ย., The Hunger Games 15 พ.ย., The Creator (Fox) รวมถึงหนังไทย 4King 2, ธี่หยด (ณเดชน์) และหนังค่าย GDH หลายเรื่อง ส่งผลให้คาดว่ารายได้สื่อโฆษณา และรายได้ธุรกิจอาหาร/เครื่องดื่ม จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ชมที่กลับมาดูหนังเพิ่มมากขึ้น เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 23.20 บาท   ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER23F ที่ 17.2X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอยู่ที่ 33X สถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น net cash คาด Dividend Yield’23 ที่ 3.5% มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอยู่ที่ 1.5%  


อย่างไรก็ตามสำหรับข่าวการประท้วงหยุดงานของนักเขียน และนักแสดง ได้ยุติลงแล้ว (27 ก.ย. 2023) โดยกลุ่มสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกา (Writers Guild of America: WGA) มีสมาชิกราว 1.15 หมื่นคน ได้เจรจากับ สมาพันธ์ AMPTP (Alliance of Motion Picture and Television Producers: AMPTP) ซึ่งเป็นตัวแทนสตูดิโอ บริการสตรีมมิง และกลุ่มผู้ผลิต โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นคือ เงื่อนไขสัญญาใหม่ที่มีระยะเวลา 3 ปี โดยมีประเด็นสำคัญเรื่องการขึ้นค่าแรง และส่วนแบ่งของนักเขียน การได้รับค่าจ้างโดยประเมินจากความสำเร็จของผลงาน โดยใช้เกณฑ์ ‘จำนวนผู้ชมในสตรีมมิง’ ที่เคยปิดเป็นความลับ เป็นตัวชี้วัดค่าจ้างสำหรับนักเขียน และนักแสดง ข้อห้ามในการใช้ AI และนักเขียนมีสิทธิฟ้องร้อง หากมีการละเมิดเกิดขึ้น โดยสตูดิโอต้องแจ้งกระบวนการผลิตขั้นตอนใดใช้ AI และดำเนินวิธีการอย่างไร จากข่าวนี้เราเชื่อว่าจะช่วยลดความกังวลของวงการภาพยนตร์ในการผลิตภาพยนตร์ที่มีคุณภาพ และจะส่งผลกระทบต่อวงการภาพยนตร์น้อยลงจากการยุติการประท้วงของนักเขียนแล้ว.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์