CPN อัด 2 หมื่นล้าน ปั้น “Central Park” ศูนย์การค้า-สำนักงานลักชัวรี่ เตรียมเปิดปี 2568

แบรนด์ “Central Park” ในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะประกอบด้วย ศูนย์การค้า บนพื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิดในไตรมาส 3 ปี 2025 ซึ่งจะผสมผสาน Curated Experience เข้ากับ Park Life เพื่อสร้างสรรค์ The New Luxury 

และอาคารสำนักงาน “Central Park Offices” บนพื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิดในไตรมาส 2 ปี 2025 โดยจะเป็นสำนักงาน Prestigious Class A ที่ดีที่สุดและสะดวกที่สุดในกรุงเทพฯ สู่ Global Professional Hub ของบริษัทชั้นนำระดับโลก ซึ่งทั้งหมดนี้จะอยู่ในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค 

ดุสิตธานี x เซ็นทรัลพัฒนา

โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับโลก ภายใต้ความร่วมมือของ บมจ.ดุสิตธานี และ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 46,000 ล้านบาท พื้นที่รวม 440,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ 23 ไร่ มุมถนนสีลม-พระราม 4 รวมทั้งสิ้น 4 องค์ประกอบ ได้แก่

1. โรงแรม Dusit Thani Bangkok จำนวน 39 ชั้น 257 ห้อง เตรียมเปิดกลางปี 2567
2. อาคารสำนักงาน Central Park Offices พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิดไตรมาส 2/2568
3. ศูนย์การค้า Central Park พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิดไตรมาส 3/2568
4. ที่พักอาศัย พื้นที่ขนาด 50,500 ตร.ม. แบ่งเป็น Dusit Residences ราคา 40-300 ล้านบาท และ Dusit Parkside ราคา 12-90 ล้านบาท โดยเตรียมเริ่มทยอยส่งมอบห้องให้ลูกค้าในปลายปี 2568

โครงการลักชัวรี่มิกซ์ยูสหนึ่งเดียวบนทำเล Super Core CBD 

วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า โครงการนี้เป็น 1 ในโครงการ 5 เมกะมิกซ์ยูส และเป็นโครงการแรกที่เปิดตัว สำหรับโครงการเมกะมิกซ์ยูสนับเป็นแผนที่วางไว้ประมาณ 5 ปี นับจากวันนี้ ซึ่งจะเป็นการทยอยดำเนินการ

โดยในครั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ในฐานะผู้พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ ร่วมกับกลุ่มดุสิตธานี นำความเป็น The Best Expertise มาสู่ The Best Location ที่ดินผืนประวัติศาสตร์และทำเลศักยภาพใจกลางเมือง พร้อมทั้งผสานความเป็นเลิศ ‘Legacy meets Luxury’ นำความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทระดับตำนานมาพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสระดับลักชัวรี่, ‘Hospitality meets Retail’ ความเป็นไทยบนเวทีโลก ทั้ง Hospitality และความเป็นเบอร์หนึ่งด้าน Retail & Developer และ ‘Vibrant Connectivity meets Green Serenity’ ที่ตั้งอยู่บนทำเล ซึ่งเชื่อมต่อทุกการเดินทาง โดยทั้ง 4 องค์ประกอบภายในโครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ ซึ่งมีอย่างละ 1 องค์ประกอบ มีความ Exclusive และสามารถ Fully Integrated เสริมความแข็งแกร่งซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว 

สร้าง High-end Lifestyle Hub ที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของย่าน 

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการสร้าง High-end Lifestyle Hub ที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของย่าน ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายกำลังซื้อสูงด้วย Curated Experience เชื่อมโยงกับ Urban Rooftop Park ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เทียบชั้นมหานครระดับโลก

ซึ่งถือเป็นโครงการลักชัวรี่มิกซ์ยูสหนึ่งเดียวบนทำเล Super Core CBD ที่มีศูนย์การค้าเชื่อมโยงเข้ากับทุกองค์ประกอบ รองรับทราฟฟิกกว่า 25 ล้านคนต่อปี พร้อมมุ่งมั่นเป็นแลนด์มาร์กระดับโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคนต่อปี 

ส่วนโครงการที่เหลือจะมีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 135,000 ล้านบาท โดยจะลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาทต่อโครงการ และมีพื้นที่กว่า 350,000 ตารางเมตรต่อโครงการ (ซึ่งจะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) ส่วนที่เซ็นทรัลลาดพร้าวมองว่าจะมีการต่อสัญญาอย่างแน่นอน แต่อยู่ระหว่างการเจรจา 

ขณะเดียวกันในส่วนของทราฟฟิกรวมทุกศูนย์การค้าจะอยู่ที่ 1.3 ล้านคนต่อวัน และปลายปีคาดว่ายอดทราฟฟิกจะเพิ่มขึ้น 20% ส่วนปัจจัยจากอีเวนต์ต่างๆ ที่จัดขึ้น คาดว่าจะดันยอดทราฟฟิกเพิ่มขึ้นอีก 20%