ส่องกำไรหุ้น JPARK ผู้ให้บริการที่จอดรถ กับราคาไอพีโอ 3.80 บาท น่าซื้อหรือไม่?

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ส่องกำไรหุ้น JPARK ผู้ให้บริการที่จอดรถ กับราคาไอพีโอ 3.80 บาท น่าซื้อหรือไม่?

Date Time: 21 ก.ย. 2566 16:19 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • ส่องกำไรหุ้นของ บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น JPARK ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารพื้นที่จอดรถ จ่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคาะราคาเสนอขายที่ 3.80 บาท/หุ้น น่าซื้อหรือไม่

ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ของ บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น JPARK ธุรกิจผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารพื้นที่จอดรถ เสนอขายหุ้นไอพีโอทั้งหมด 110,000,000 หุ้น คิดเป็น 27.50% ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด เคาะราคาเสนอขายที่ 3.80 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 418,000,000 บาท โดยมี บริษัท แอสเซทโปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


ทั้งนี้ JPARK ดำเนินธุรกิจหลัก แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1. ธุรกิจให้บริการที่จอดรถ 2. ธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ และ 3. ธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ


สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ JPARK จะนำเงินไปใช้เพื่อลงทุนโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 100 ล้านบาท และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ 294.95 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาการใช้เงินภายในปี 2566 ถึง ปี 2567


ขณะที่ผลประกอบการย้อนหลังของ JPARK ในอดีตพบว่า ในปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม จำนวน 286.17 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6.51 ล้านบาท ต่อมาปี 2564 มีรายได้ 243.61 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 10.99 ล้านบาท และในปี 2565 มีรายได้ 455.09 ล้านบาท กำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท 


โดยต้นปี 2565 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทต่ำกว่าช่วงเวลาปกติ เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากนโยบายปิดเมืองของรัฐบาล อันเป็นเหตุมาจากสถานการณ์โควิด-19 จึงส่งผลให้รายได้จากธุรกิจให้บริการที่จอดรถลดลง จากการที่ผู้มาใช้บริการลดลงมาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรายได้ดังกล่าวถือเป็นหลักของบริษัท


อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2565 เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง และรัฐบาลได้ยกเลิกนโยบายปิดเมือง ประกอบกับการที่บริษัทมีรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ และธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมในปี 2565 บริษัทมีรายได้และความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น


ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 27.82 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.97% ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามีกำไรสุทธิ 18.85 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.81% โดยสาเหตุการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิมาจากรายได้และความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจให้บริการที่จอดรถดีขึ้นภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง และรัฐบาลได้ยกเลิกนโยบายปิดเมือง


นอกจากนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับบริษัท คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาการจ่ายเงินปันผล โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลัก และการจ่ายเงินปันผลนั้นจะต้องไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานตามปกติอย่างมีนัยสำคัญ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ