AOT อนาคตสดใส ฟรีวีซ่า-รับโอนสนามบินใหม่ ดันกำไรอาจพุ่งไม่หยุด

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

AOT อนาคตสดใส ฟรีวีซ่า-รับโอนสนามบินใหม่ ดันกำไรอาจพุ่งไม่หยุด

Date Time: 22 ก.ย. 2566 11:24 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ต่างคาดผลประกอบการของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AOT จะฟื้นตัวเด่นและพลิกกลับมามีกำไรได้ หลังได้ปรับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมลุ้น ครม. เคาะรับโอนสิทธิการบริหาร 3 ท่าอากาศยานภูมิภาค

Latest


ภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นด้านปัจจัยการเมืองที่ได้รัฐบาล นำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เร่งรัดหน่วยงานต่างๆ ออกนโยบายและมาตรการในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกที่ผ่านมา สร้างความคาดหวังให้กับนักลงทุนว่า ตลาดหุ้นไทยจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาไม่มากก็น้อย


ขณะเดียวกัน มาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจจากรัฐบาล คาดว่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AOT ทำให้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ต่างมองว่า แนวโน้มผลประกอบการจะฟื้นตัวและพลิกกลับมามีกำไรได้


นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่น่าติดตามสำหรับนักลงทุน เกี่ยวกับความชัดเจนของการรับโอนสิทธิการบริหาร 3 ท่าอากาศยานภูมิภาค ได้แก่ อากาศยานอุดรธานี, ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และท่าอากาศยานกระบี่ จากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ซึ่งต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรอการพิจารณาจากรัฐบาลชุดใหม่


สำหรับผลประกอบการของ AOT ย้อนหลัง 3 ปี บริษัทมีรายได้รวมปี 2563 อยู่ที่ 33,129.95 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,320.68 ล้านบาท ต่อมาปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 7,715.73 ขาดทุนสุทธิ 16,322.01 ล้านบาท และปี 2565 มีรายได้รวม 16,992.50 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 11,087.87 ล้านบาท


ล่าสุด AOT ประกาศผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 พบว่ามีรายได้รวมฟื้นตัวมาที่ 32,997.70 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,358.93 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงระดับเดียวกับปี 2563 แล้ว

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จํากัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประมาณการเต็มปีของเราบ่งชี้ว่า AOT จะมีกําไรปกติ 4,000 ล้านบาท ในงวดไตรมาส 4/66 (ก.ค.-ก.ย. 2566) ฟื้นตัวจากขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ปัจจัยสนับสนุนที่สําคัญคือจํานวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่สูงขึ้น หลังจากบริษัทกลับมาเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นตํ่าจากผู้รับสัมปทาน เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566


ขณะเดียวกัน AOT มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของภาคการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จะทําให้กําไรเพิ่มขึ้นในงวดไตรมาส 4/66 ถึงงวดไตรมาส 1/67 นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกจากมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทย 


อย่างไรก็ดี เรามองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมที่เป็นบวกยังไม่ได้สะท้อนในราคาหุ้นเนื่องจากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น AOT ค่อนข้างทรงตัว สอดคล้องกับตลาดหุ้นไทย แต่ยังปรับตัวตามหลังหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3% ซึ่งเรามองว่าเป็นโอกาสให้เพิ่มสถานะการลงทุนใน AOT ได้ เราให้คําแนะนํา tactical call ระยะ 3 เดือนที่ OUTPERFORM สําหรับ AOT ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 84 บาท/หุ้น


ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า สำหรับประเด็นการรับโอนสนามบิน 3 แห่งล่าช้า จากต้องรอ ครม.ชุดใหม่อนุมัติ ขณะที่กระแสข่าวเรื่องการรับโอนเพิ่มอีก 6 แห่ง บริษัทยังไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่เราคาดส่วนใหญ่จะมีศักยภาพและพัฒนาให้เป็น Regional หรือ Secondary Hub Airport ได้ในอนาคต


เบื้องต้นในมุมมองของเรา สนามบินภูมิภาคส่วนใหญ่จะมีผลขาดทุน เพราะเน้นเส้นทางบินในประเทศเป็นหลัก กดดันให้ในระยะสั้น AOT อาจต้องแบกรับผลขาดทุนและต้องลงทุนเพิ่มเพื่อปรับปรุงศักยภาพ อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นบวกในระยะยาว เนื่องจากการได้สิทธิเข้าบริหารจะช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตจากการเพิ่ม Capacity และ Coverage ให้กับบริษัท


ขณะเดียวกัน แนวโน้มกำไรปกติงวดไตรมาส 4/66 คาดเติบโตต่อเนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเร่งตัวขึ้น คาดหนุนให้รายได้ทั้งจากการให้บริการผู้โดยสารและส่วนแบ่งผลประโยชน์เร่งตัวขึ้นต่อในไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ AOT


แต่เนื่องจากกำไรปกติงวด 9 เดือนของปี 2566 คิดเป็น 52% เทียบกับประมาณการทั้งปีของเรา เพื่อให้ประมาณการของเราสมเหตุสมผลมากขึ้น เราปรับลดกำไรปกติปี  2565/66 เป็น 9.5 พันล้านบาท และปี 2566/67 เป็น 2.6 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 178% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า จากการ 1) ปรับลดจำนวนผู้โดยสารต่างชาติปี 2565/66 และปี 2566/67 ลงเป็น 25 ล้านราย และ 41 ล้านราย จากเดิมคาด 26 และ 46 ล้านราย 2) ปรับลดจำนวนผู้โดยสารในประเทศปี 2566/67 ลงเป็น 28 ล้านราย จาก 30 ล้านราย คงจำนวนผู้โดยสารปี 2565/66 ที่ 25 ล้านราย การปรับลงดังกล่าว ทำให้สมมติฐานจำนวนผู้โดยสารของเราในปัจจุบัน ใกล้เคียงกับ Guidance ของ AOT


แม้เราปรับลดประมาณการ แต่เราเชื่อว่าผลประกอบการปี 2565/66 ไม่ได้สะท้อนการฟื้นตัวอย่างเต็มปี ดังนั้น เราจึงปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 85.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” AOT จากเป็นหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวที่น่าสนใจจากผลประกอบการฟื้นตัวเด่นอย่างต่อเนื่อง และประมาณการของเรามีโอกาสเกิดอัปไซด์.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์