หุ้นมือถือ ADVANC-TRUE ดี๊ด๊า แข่งขันลดฮวบ “หั่นดาต้าราคาเท่าเดิม” ดันกำไรไตรมาส 3 ฟื้นตัว

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้นมือถือ ADVANC-TRUE ดี๊ด๊า แข่งขันลดฮวบ “หั่นดาต้าราคาเท่าเดิม” ดันกำไรไตรมาส 3 ฟื้นตัว

Date Time: 4 ก.ย. 2566 10:58 น.

Video

คนไทยจ่ายภาษีน้อย มนุษย์เงินเดือนรับจบ ปัญหาอยู่ที่ระบบหรือคนกันแน่ ? | Money Issue

Latest


ผลประกอบการ 2 ค่ายมือถือชื่อดัง ทั้ง AIS หรือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ADVANC และ True บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) TRUE เริ่มมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการควบรวมกันระหว่าง TRUE และ DTAC โดยนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ชี้ประเด็นว่า พบว่าทิศทางของการแข่งขันที่ลดลง โดยเห็นได้จากแพ็กเกจมือถือที่ให้บริการข้อมูล หรือ DATA ที่ลดลง โดยแพ็กเกจเติมเงิน 150 บาท สำหรับใช้งาน 30 วันในเดือนสิงหาคม ผู้ใช้บริการ prepaid จะยังได้ความเร็ว 4Mbps แต่ปริมาณการใช้งาน data จะลดลงจาก 30GB ในเดือนมิถุนายน 2566 เหลือเพียง 15GB ในเดือนสิงหาคม ส่งผลทิศทางผลประกอบการที่จะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 3

 

 

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี มีมุมมองบวกกับหุ้นกลุ่มไอซีที จากสภาวะการแข่งขันที่ลดลง ถึงแม้จะยังไม่มีการปรับนโยบายราคาของบริการกลุ่มคิดค่าบริการรายเดือน หรือ postpaid ในไตรมาสที่ 3 แต่เราพบว่าแพ็กเกจบริการ prepaid มีการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยระดับราคา (price point) ของบริการ prepaid ยังคงเหมือนกับในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 โดยราคาขั้นต่ำ (entry price) อยู่ที่ 150 บาท แต่มีการปรับลดปริมาณการใช้ data ตามแพ็กเกจในเดือนสิงหาคมลงจากเดือนมิถุนายนครึ่งหนึ่ง เรายังคงคำแนะนำซื้อทั้ง ADVANC และ TRUE โดยเลือก ADVANC เป็นหุ้นเด่นของเรา และประเมินราคาเป้าหมายที่ 250 บาท

 

กลุ่มสื่อสาร มีสัญญาณบวกจากงบไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา

กำไรรวมของกลุ่มสื่อสารในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 5 พันล้านบาท ลดลง 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 7% จากไตรมาสก่อน มีสาเหตุสำคัญมาจาก TRUE โดยในไตรมาสที่ 2 พลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 2.1 พันล้านบาท จากที่มีกำไร 2.5 พันล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565  และแย่กว่าที่ขาดทุนสุทธิ 1.2 พันล้านบาท ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566  ผลประกอบการที่อ่อนแอของ TRUE เป็นเพราะค่าเสื่อมราคาสูงเกินคาดเนื่องจาก TRUE ปรับวิธีการบันทึกบัญชีให้มีลักษณะอนุรักษนิยมมากขึ้น แต่ถึงแม้ว่าค่าเสื่อมราคาจะสูงขึ้น เราเริ่มเห็นสัญญาณของรายได้ที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ จากทั้งธุรกิจมือถือ เพิ่มขึ้น 1% และ FBB เพิ่มขึ้น 3.2% เพราะ ARPU ดีขึ้น ส่วนผลประกอบการของ ADVANC ดีขึ้นทั้ง 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงจากไตรมาสก่อน 6.9% เพราะรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจาก ARPU เพิ่มขึ้น และต้นทุนลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาด

ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 น่าจะดีขึ้นจาก ARPU ที่เพิ่มขึ้น

เราคาดว่าผลประกอบการของกลุ่ม ICT จะดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จากหลายปัจจัยด้วยกัน ได้แก่ 1. ARPU มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดของเราพบว่า การแข่งขันยังคงลดลงไปอีกใน ไตรมาสที่ 3 โดยเฉพาะในกลุ่มบริการ prepaid ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ใช้บริการใหม่ (ซื้อซิมใหม่ หรือ ย้ายค่าย (MNP)) ราคาของบริการ prepaid ทุกค่ายยังแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 แต่มีการลดปริมาณการใช้งาน data ของเกือบทุกแพ็กเกจลงในเดือนสิงหาคม 2023

ยกตัวอย่าง เช่น

การเติมเงิน 150 บาท สำหรับใช้งาน 30 วันในเดือนสิงหาคม ผู้ใช้บริการ prepaid จะยังได้ความเร็ว 4Mbps (เท่ากับในไตรมาสที่ 2) แต่ปริมาณการใช้งาน data จะลดลงจาก 30GB ในเดือนมิถุนายน 2566 เหลือเพียง 15GB ในเดือนสิงหาคม และ 2 แรงกดดันทางด้านต้นทุนลดลง เพราะต้นทุนค่าไฟฟ้าจะลดลงหลังจากที่ทางการลดค่า 4Ft

 

เราเลือก ADVANC เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้

เราแนะนำซื้อทั้ง ADVANC และ TRUE เนื่องจากเรามองบวกกับแนวโน้มธุรกิจของกลุ่ม แต่เราเลือก ADVANC เป็นหุ้นเด่นของเรา เนื่องจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง และมี upside ถึงราคาเป้าหมายของเรามากกว่า

 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินว่า กลุ่มสื่อสารเริงร่า คาด ARPU ทยอยฟื้นตัว จากการทยอยยกเลิกแพ็กเกจที่เคยทำตลาดในช่วง COVID-19 ด้วยราคาประหยัด ทางฝ่ายมองผ่านจุด ARPU ของกลุ่มสื่อสารที่ต่ำสุดในงวดไตรมาสที่ 1 ไปแล้ว นอกจากนี้ การควบรวม TRUE-DTAC ที่แล้วเสร็จ ทำให้เหลือการแข่งขันเพียงแค่ 2 ราย จาก 3 แบรนด์ ทำให้อำนาจต่อรองผู้บริโภคลดลง จะช่วยเป็นตัวเร่งให้ ARPU มีโอกาสฟื้นตัวสอดรับกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้ง ADVANC และ TRUE ตั้งแต่งวดไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป

โดยแบบจำลอง ถ้าปรับให้ ARPU เพิ่มขึ้นจากสมมติฐานเดิม 1 บาท ทั้ง Post-Paid และ Pre-Paid ในทุกไตรมาส ซึ่งจะทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น โดย ADVANC เพิ่มจาก 232 เป็น 233.85 บาท ส่วน TRUE จะเพิ่มจาก 9.02 เป็น 9.08 บาท

ด้านแนวโน้มต้นทุนที่ทยอยลดลง จากน้อง “อุ่นใจ” และน้อง “มะลิ” ด้านต้นทุน ทางฝ่ายมองต้นทุนของ Operator ทั้งสองค่ายมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยทั้งสองเครือข่ายปัจจุบันใช้ระบบ AI เป็นผู้ช่วยในระบบ Call Center ของตนเองมากยิ่งขึ้น ทำให้ช่วยกรองลูกค้าให้เข้าถึงพนักงานที่เป็น Call Center ยากมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารบุคลากรในบริษัท

คำแนะนำ : ทางฝ่ายมีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มสื่อสารที่มีโอกาสฟื้นตัวได้ โดยมองค่า ARPU ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ให้น้ำหนักเป็นมากกว่าตลาด โดยมองหุ้น ADVANC เป็นหุ้น Top Pick จากคาดการณ์ควบรวม TTTBB และ JASIF จะเสร็จสิ้นได้ภายในสิ้นงวดไตรมาสที่ 3  ซึ่งจะช่วยหนุนธุรกิจ Fixed Broadband ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และด้าน Subscriber ในธุรกิจ ทั้ง Mobile Revenue ยังเป็น Net Add 6 ไตรมาสติดต่อกัน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์