บางจากคาดหลังซื้อเอสโซ่ ดันยอดขายแตะ 5 แสนล้าน ในปี 67 คาด 5 ปีคืนทุน ไม่นำออกจากตลาดหุ้น

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

บางจากคาดหลังซื้อเอสโซ่ ดันยอดขายแตะ 5 แสนล้าน ในปี 67 คาด 5 ปีคืนทุน ไม่นำออกจากตลาดหุ้น

Date Time: 31 ส.ค. 2566 18:11 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BCP ที่ได้ดำเนินการชำระราคาซื้อขายหุ้นสามัญ ของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ESSO จำนวน 2.28 พันล้านหุ้น หรือคิดเป็น 65.99% ดันยอดขายแตะ 5 แสนล้าน ในปี 67 คาด 5 ปีคืนทุน ไม่นำออกจากตลาดหุ้น

Latest


ปิดดีลครั้งประวัติศาสตร์เป็นที่เรียบร้อย สำหรับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BCP ที่ได้ดำเนินการชำระราคาซื้อขายหุ้นสามัญ ของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ESSO จำนวน 2.28 พันล้านหุ้น หรือคิดเป็น 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. (ExxonMobil)


ทั้งนี้ บางจากฯ จะทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ ESSO อีก 34.01% ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน ถึง 12 ตุลาคม 2566 และทำการปรับปรุงเงื่อนไข พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเข้ามาภายใต้กลุ่มบางจาก และปิดสมุดผู้ถือหุ้น โดยมั่นใจว่ากระบวนการทั้งหมดจะสามารถเสร็จสิ้นได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนนำ ESSO ออกจากตลาดหลักทรัพย์ภายในระยะเวลา 1 ปีนี้


ปิดดีล ESSO ดันรายได้แตะ 5 แสนล้านบาท


ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BCP เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2566 จะทำได้ที่ 3.8 แสนล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 3.12 แสนล้านบาท หลังเริ่มทยอยรับรู้ผลการดำเนินงานของ ESSO ในไตรมาสที่ 3/66


ขณะที่การบันทึกกำไรพิเศษจากการซื้อกิจการ จะต้องรอประเมินสินทรัพย์ให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งจะเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว โดยคาดว่าจะบันทึกได้ภายในไตรมาส 3/66


นอกจากนี้ บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2567 จะสามารถเติบโตแตะที่ระดับ 5 แสนล้านบาท หลังมีการรับรู้สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่เข้ามาเต็มปี พร้อมคาดว่า ณ สิ้นปี 2567 จะมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันแตะ 2,300 แห่ง


ส่วนแบ่งการตลาดแตะ 30% ขึ้นแท่นอันดับ 2


นอกจากนี้ บริษัทเชื่อว่ายอดขายน้ำมันของบางจาก จะสามารถมีส่วนแบ่งการตลาดแตะระดับ 30% และขึ้นเป็นอันดับ 2


โดยการเข้าซื้อกิจการ ESSO ในครั้งนี้ บริษัทจะสามารถเข้าดำเนินการทรัพย์สินของ ESSO ได้ทันที โดยมีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย


1.โรงกลั่นน้ำมันดิบ ขนาดกำลังการกลั่น 1.74 แสนบาร์เรลต่อวัน จังหวัดชลบุรี

2.สถานีบริการน้ำมัน 832 แห่ง แบ่งเป็น สถานีบริการน้ำมันภายใต้การบริหารของบริษัท จำนวน 280 แห่ง ส่วนที่เหลือเป็นของตัวแทนจำหน่าย

3.หุ้นบริษัท ท่อ ส่ง ปิโตรเลียม ไทย จำกัด จำนวน 21% และหุ้นบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 7.06%

4.น้ำมันดิบในคลัง จำนวน 7.4 ล้านบาร์เรล

5.กรรมสิทธิ์ที่ดิน (Freehold) จำนวน 800 ไร่


ยังไม่มีแผนนำ ESSO ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ


อย่างไรก็ดี บริษัทยังไม่มีแผนนำหุ้นของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ESSO ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในระยะเวลา 1 ปี พร้อมเตรียมเข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือ จำนวน 34.01% จากผู้ถือหุ้นเอสโซ่ ในราคาหุ้นละ 9.8986 บาท โดยคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 4/66


ขณะเดียวกัน บริษัทเชื่อว่าจะสามารถคืนทุนได้อย่างช้าภายใน 5 ปี จากความต้องการใช้รถยนต์สันดาปยังมีอีกมาก ขณะที่การรับรู้สินทรัพย์ต่างๆ ของเอสโซ่ จะช่วยสนับสนุนโอกาสการเติบโตของธุรกิจในอนาคต


นอกจากนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้จำนวน 2 แสนล้านบาท สำหรับแผนการลงทุนใน 5 ปี (2566-2570) แบ่งเป็น การลงทุนในธุรกิจสำรวจขุดเจาะปิโตรเลียม 30% โครงการน้ำมันอากาศยานยั่งยืน 30% การลงทุนในธุรกิจโรงกลั่น (รวมดีล ESSO) 30% ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในบริษัทย่อย เช่น BCPG และ BBGI


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์