SINGER วิ่งแรง เก็งได้ประโยชน์เงินดิจิทัล 1 หมื่น โบรกฯเชียร์ “ขาย” หวั่นขาดทุนเพิ่ม

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

SINGER วิ่งแรง เก็งได้ประโยชน์เงินดิจิทัล 1 หมื่น โบรกฯเชียร์ “ขาย” หวั่นขาดทุนเพิ่ม

Date Time: 25 ส.ค. 2566 15:48 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • ราคาหุ้น SINGER วันนี้ ปรับตัวขึ้นแรงมาอยู่ที่ 11.30 บาท หรือเพิ่มขึ้น 9.71% จากวันก่อนหน้า นักลงทุนต่างมีความคาดหวังว่าผลประกอบการได้พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว พร้อมกับได้รับประโยชน์จากนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท

Latest


ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SINGER วันนี้ ปรับตัวขึ้นแรงมาอยู่ที่ 11.30 บาท หรือเพิ่มขึ้น 9.71% จากวันก่อนหน้า นักลงทุนต่างมีความคาดหวังว่าผลประกอบการได้พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว พร้อมกับได้รับประโยชน์จากนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดย เศรษฐา ทวีสิน


ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ราคาหุ้น SINGER ปรับตัวขึ้นแรง มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ความคาดหวังของนักลงทุนที่มองว่าแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทใกล้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว 


และความคาดหวังของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะมาตรการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากสินค้าของ SINGER น่าจะได้รับประโยชน์ค่อนข้างมาก


อย่างไรก็ดี บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ไม่ได้มีคำแนะนำการลงทุนในเชิงปัจจัยพื้นฐานสำหรับหุ้น SINGER แต่เมื่อดูการปรับตัวของราคาหุ้นเป็นลักษณะไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง โดยมองว่าแนวต้านถัดไปอยู่บริเวณ 11.80-12.00 บาทต่อหุ้น


ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คงคำแนะนำ “ขาย” แต่อยู่ระหว่างการปรับประมาณการขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น และปรับราคาเป้าหมายลง จากเดิมราคาเป้าหมายที่ 6.00 บาท จากความเสี่ยงจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทรายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ขาดทุน 2.4 พันล้านบาท พลิกจากกำไรไตรมาส 2/65 ที่ 265 ล้านบาท และขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/66 ที่ 843 ล้านบาท โดยขาดทุนมากกว่าตลาดคาดที่ 621 ล้านบาท


โดยการขาดทุนดังกล่าวมาจากค่าใช้จ่ายสำรองที่เพิ่มขึ้น และยังรับรู้การปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือต่อเนื่องที่ 511 ล้านบาท ประกอบกับเริ่มเห็นสัญญาณสินเชื่อ C4C ที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลง 


ทั้งนี้ ประเมินว่าสินเชื่อมีโอกาสที่จะขยายตัวต่ำคาด จากการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งเงินสด และเงินลงทุนที่จะครบกำหนดไถ่ถอนมีมูลค่าน้อยกว่าหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปี 2566-2568 รวมที่ 5.7 พันล้านบาท พร้อมอยู่ระหว่างการปรับประมาณการขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์