CPAXT จ่อเปิดโมเดล “Hybrid Mall” จับแม็คโคร-โลตัส รวมในสาขาเดียว หวังเจาะตลาดชุมชน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

CPAXT จ่อเปิดโมเดล “Hybrid Mall” จับแม็คโคร-โลตัส รวมในสาขาเดียว หวังเจาะตลาดชุมชน

Date Time: 22 ส.ค. 2566 12:47 น.

Video

เศรษฐกิจไทย เสี่ยงวิกฤติหนักแค่ไหน เมื่อต้องเปลี่ยนนายกฯ | Money Issue

Summary

  • - CPAXT จ่อเปิดโมเดล “Hybrid Mall” จับแม็คโครและโลตัสมารวมในพื้นที่เดียวกัน ลุยเปิดในชุมชน ตอบโจทย์คู่ค้าทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก
  • - ตั้งเป้ายอดขายเฉลี่ยต่อปีโตตามจีดีพีไทย รุกขยายสาขาในประเทศ-ต่างประเทศต่อเนื่อง เชื่อหากการเมืองชัด-ตั้งรัฐบาลได้ จะหนุนกำลังซื้อจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

วัฒนา สกุลกนกนาถ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดตัว “Hybrid Mall” ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงระหว่างจุดเด่นของธุรกิจค้าส่ง (แม็คโคร) และค้าปลีก (โลตัส) ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การดูแลของ CPAXT มารวมในพื้นที่เดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น 


ทั้งนี้ Hybrid Mall นั้นจะเป็นการนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองธุรกิจ มาตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้าทั้ง B2B และ B2C โดยจะมุ่งเน้นการทำตลาดในพื้นที่ชุมชนเป็นหลัก ซึ่งความร่วมมือระหว่างธุรกิจคาดจะทำให้มีโอกาสเติบโตของรายได้ และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้


พร้อมกันนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายผลประกอบการในระยะยาว เติบโตเฉลี่ยต่อปีใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ (จีดีพี) จากกลยุทธ์ การเปิดสาขาต่อเนื่อง โดยธุรกิจค้าส่งภายใต้แบรนด์แม็คโคร คาดว่าจะเปิดเพิ่ม 8-10 สาขา ในประเทศ และ 2-4 สาขา ในต่างประเทศ ส่วนธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์โลตัส คาดว่าจะเปิดไฮเปอร์มาเก็ตเพิ่ม 3-4 สาขา ซุปเปอร์มาเก็ต 10-14 สาขา และมินิซุปเปอร์มาเก็ต 100-120 สาขา


ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนเพิ่มยอดขายนอกร้านอย่างต่อเนื่อง จากการผลักดันแพลตฟอร์ม O2O หรือการผสานการทำการตลาดระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมปรับปรุงสาขาเดิมให้เหมาะสมกับสถานที่ชุมชนด้วย

ปัจจุบันบริษัทมีร้านสาขาภายใต้แบรนด์แม็คโคร จำนวนรวม 163 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 153 สาขา และต่างประเทศ 10 สาขา ส่วนสาขาภายใต้แบรนด์โลตัส จำนวนรวม 2,565 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 2,499 สาขา และต่างประเทศ 66 สาขา


สำหรับปัจจัยการเมืองจะมีผลกระทบกับธุรกิจของบริษัท หรือไม่ นั้น บริษัทมองว่าหากมีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล จะเป็นประโยชน์ต่อภาคเอกชนทุกบริษัท โดยเฉพาะจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่คาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนกำลังซื้อภายในประเทศให้มีการเติบโต

ด้าน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทจะรุกการเปิดแม็คโครรูปแบบใหม่ “Hybrid Model” เป็นการผสานธุรกิจค้าส่งของแม็คโคร เข้ากับธุรกิจพื้นที่เช่าของตัวโลตัส ซึ่งเป็นการเชื่อมจุดแข็งของแต่ละธุรกิจเข้าด้วยกันคาดช่วยหนุนผลประกอบการ เนื่องจากได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น (บนพื้นที่เท่าเดิม) และการที่ลูกค้าเข้ามาในร้านเพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนยอดขายแม็คโครทางอ้อม


ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนปรับปรุงพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาเดิมทั่วประเทศเป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัยในชุมชน (SMART Community Center) โดยในแต่ละสาขาจะมีสินค้าและบริการร้านค้าเช่าที่แตกต่างกันไป ตามไลฟ์สไตล์ของคนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ค่าเช่าและรายได้จากการให้บริการศูนย์การค้าให้มีแนวโน้มดีขึ้น


อย่างไรก็ดี คาดผลประกอบการไตรมาสที่ 3/66 ฟื้นตัวได้จากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากแนวโน้มยอดขายสาขาเดิมที่ยังเป็นบวก ภาระดอกเบี้ยจ่ายและต้นทุนค่าไฟลดลง ส่วนไตรมาสที่ 4/66 คาดฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของภาคการท่องเที่ยว และเชื่อว่าหลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนกำลังซื้อให้เร่งตัวขึ้นอีกครั้ง คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 40.00 บาท/หุ้น


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ