ตลาดหุ้นจับตาโหวตนายกฯ “เศรษฐา” หุ้นทุนผูกขาด-อิงภาครัฐ ถึงเวลาฟื้น

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ตลาดหุ้นจับตาโหวตนายกฯ “เศรษฐา” หุ้นทุนผูกขาด-อิงภาครัฐ ถึงเวลาฟื้น

Date Time: 21 ส.ค. 2566 10:24 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • เข้าใกล้มาทุกขณะสำหรับการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยมีแคนดิเดต คนสำคัญอย่าง เศรษฐา ทวีสิน ของพรรคเพื่อไทยที่คาดว่าจะมีการเสนอชื่อในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลกับตลาดหุ้นครั้งสำคัญอาจเกิดความผันผวนตามกระแสข่าวที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่า การโหวตนายกฯ ที่จะเกิดขึ้นหากได้รับการโหวตแต่งตั้งจริง จะช่วยปลดล็อกเศรษฐกิจไทย และในเวลาเดียวกัน จะส่งผลให้หุ้น 5 กลุ่มฟื้นตัวได้อย่างร้อนแรง

 

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส ประเมินว่า สัปดาห์นี้คาดได้ตัวนายกรัฐมนตรี หวังเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังประธานสภาประชุม 3 วิปเสร็จสิ้น โดยมีรายละเอียด คือ วันโหวตนายกฯ 22 ส.ค. นี้ ให้ สส.-สว.อภิปราย 5 ชั่วโมง (สส. 3 ชม. / สว. 2 ชม.) ก่อนลงมติ 15.00 น. และชี้แจงว่า ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ ดังที่รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้

 

ขณะที่ทางฝั่งพรรคเพื่อไทยเตรียมแถลงร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและพรรค ร่วมอื่นๆ อีก 3 พรรค (วันนี้เวลา 13.00 น.) ทำให้เสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลล่าสุดคาด อยู่ที่ 317 เสียง ซึ่งต้องหาเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกอีก 58 เสียง จึงจะสามารถ จัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้ โดยท่าทีของ สว. ล่าสุดมีโอกาสสูงที่ทำให้การโหวต นายกรอบที่ 3 มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น (>375 เสียง) ซึ่งกระบวนการหลังจากนั้น คือ แต่งตั้ง ครม. ชุดใหม่ช่วงปลายเดือน ส.ค. 66

 

ประเด็นดังกล่าว หากเป็นผลสำเร็จจริง ก็จะช่วยลดความกังวลเรื่องสุญญากาศทาง การเมืองและงบประมาณประจำปี 2567 ไปได้ระดับหนึ่ง และ น่าจะทำให้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตอบสนองเชิงบวกได้ ส่วนประเด็นการเก็งกำไร ก็อาจเกิดขึ้นกับหุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ จากแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ (นโยบายหลักๆ ของพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ เติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 10,000 บาท, ค่าแรง 600 บาท / เงินเดือน ป.ตรี 25,000 บาท, รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, เปิดศูนย์ฟอกไตเทียมทุกอำเภอ, พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น-หยุดดอก, บัตรประชารัฐ, บัตรสวัสดิการพลัส, คนละครึ่งภาค 2 เป็นต้น

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นที่เคยร่วงแรงจากความกังวลเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ก่อนหน้านี้ที่มีโอกาสดีดตัวขึ้นมาได้ แนะนำหุ้นเด่น 5 กลุ่ม คือ

  1. หุ้นรายได้อิงโครงการ ภาครัฐ STEC, CK, BEM
  2. หุ้นหวังพึ่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม SAWAD, CBG, JMT
  3. หุ้นทุนผูกขาด TRUE, CRC, CPN, CPALL, BJC
  4. หุ้นได้รับผลกระทบปรับ สูตรค่าไฟฟ้า GULF, BGRIM, GPSC, PTTGC
  5. หุ้นรับกระแสข่าวดังกล่าว SIRI, SC, ADVANC, PR9, SCB

 

 

 

โหวตผ่านช่วยสร้างเชื่อมั่น

 

 

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ประเมินว่า ปัจจัยที่ต้องจับตาในวันพรุ่งนี้ คือ การเปิดสภาฯ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 มีความเป็นไปได้ที่จะโหวตผ่านในครั้งเดียวหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยประกาศจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และ พรรคพลังประชาชารัฐส่งสัญญาณพร้อมลงคะแนนให้แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย ส่งผลให้มีคะแนนเสียงรวม 314 เสียง เหลือเพียง 61 คะแนนเท่านั้น หากโหวตผ่านเรามีมุมมองเป็นบวกหนุน Sentiment การลงทุนในหุ้นอิงการลงทุนในประเทศ ทั้ง ค้าปลีก, นิคม, รับเหมาฯ และหุ้นการเมือง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ