นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ของปี 2566 ลงจากระดับ 2 หมื่นล้านบาท ให้มาอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของความท้าทายทางธุรกิจในปีนี้ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“ในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมาเราเผชิญกับความท้าทายในหลายส่วน หลายบริษัทของเราโตได้ตามแผน แต่ก็มีจำนวนหนึ่งที่ไม่เป็นไปตามแผนดังนั้นจึงต้องมีการปรับเป้าหมายให้สอดคล้องกับแผนงานในอนาคต”
ส่วนการเข้าทำรายการของ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS ซื้อหุ้นบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (“BO”) จำนวน 4,149,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 9.22 คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาทนั้น จะช่วยเสริมศักยภาพให้กับกลุ่ม โดยเฉพาะในด้านการยืนยันตัว หรือการทำธุรกรรม ที่BO มีความเชี่ยวชาญอย่างมากจากการเป็นผู้ให้บริการด้านตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะช่วยต่อยอดการเติบโตของตลาด Touch Point ที่ไตรมาสที่ 2 มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับคำถามในด้านราคาหุ้นของบริษัทที่ราคาปรับตัวลดลงมากกว่า 35% จากต้นปีนั้น ในเบื้องต้นบริษัทมองว่า น่าจะเป็นภาวะเดียวกับช่วง 3 ปีก่อน ที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นครั้งแรกแล้วราคาต่ำจากราคาไอพีโอ ซึ่งเกิดจากภาวะความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งนี้ บริษัทอยากย้ำกับนักลงทุนว่า เรามีแผนการเติบโตที่ชัดเจน และเดินหน้าตามแผนที่ได้ให้ไว้ แต่ด้วยความผันผวนของตลาดและความท้าทายอาจเข้ามากระทบกับบริษัทบ้าง แต่บริษัทจะเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อไป
ในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าออกสู่ภูมิภาคอาเซียน ภายใต้แนวคิด Overseas Aspiration โดยบริษัทฯ ได้เริ่มจากการเข้าร่วมมือกับ GHL และ CollectCo แม้ ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ จะยังไม่ได้เข้าลงทุนในกิจการดังกล่าว เนื่องจาก ราคาหุ้นมีความผันผวนทั้งภูมิภาค แต่อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงมีความสัมพันธ์และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ GHL ในประเทศไทย และยังมีความตั้งใจที่จะเข้าลงทุนตามเป้าหมายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด รวมไปถึงเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทฯ ต่อไปในภูมิภาคเอเชียจากการเข้าลงทุนใน AS ถือเป็นการขยายธุรกิจในภูมิภาคตามแนวคิด Overseas Aspiration เนื่องจาก AS เป็นบริษัทเกมที่มีฐานลูกค้าอยู่ 5 ประเทศใน ASEAN ตลอดจนพัฒนาการของ AS ที่เข้าลงทุนใน BO ก็เป็นการเสริมศักยภาพการขยายตัวสู่ภูมิภาคเช่นกัน
ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2566) บริษัท มีรายได้รวม อยู่ที่ 5,106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากธุรกิจปกติ และยังมองการลงทุนอย่างต่อเนื่อง มีกำไรจากการดำเนินงาน(หลังค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มในการสร้างธุรกิจ) 433.3 ล้านบาท และ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 346.6 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิ 463.5 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการวัดมูลค่าเงินลงทุนในตราสารทุนที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับในไตรมาส 2 ปีนี้ SABUY มีรายได้รวม 2,572.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 179.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสนี้ มีผลกำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนในตราสารทุนลดลงจาก 420.3 ล้านบาท เป็น 106.2 ล้านบาท
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 23.7% สาเหตุหลักเป็นผลมาจากต้นทุนในการขายสินค้าจากตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและค่าใช้จ่ายในการให้บริการที่เพิ่มขึ้นประกอบกับการปรับเปลี่ยนสินค้าและกลุ่มลูกค้า รวมถึงการที่กลุ่มบริษัทควบคุมราคาจำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อให้สามารถยังคงแข่งขันกับตลาดและรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า