หุ้น CENTEL ดิ่งหนัก ผิดหวังกำไรโตต่ำ หยวนต้า หั่นเป้าเหลือ 48 บาท ลุ้นไฮซีซั่นช่วยฟื้น

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้น CENTEL ดิ่งหนัก ผิดหวังกำไรโตต่ำ หยวนต้า หั่นเป้าเหลือ 48 บาท ลุ้นไฮซีซั่นช่วยฟื้น

Date Time: 15 ส.ค. 2566 15:21 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • ราคาหุ้น CENTEL ดิ่งหนัก หลังผลประกอบการไตรมาสที่ 2/66 ต่ำคาด นักวิเคราะห์ฯ หั่นราคาเป้าหมายเหลือ 48 บาท ลุ้นไฮซีซั่นช่วงไตรมาส 4/66 ช่วยฟื้นผลงาน

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น CENTEL หรือ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) วันนี้ ดิ่งลงแรงกว่า 6.00 บาท หรือปรับตัวลดลง 12.37% มาอยู่ที่ 42.50 บาท หลังผลประกอบการไตรมาสที่ 2/66 ต่ำคาด กดดันจากธุรกิจโรงแรมที่รายงานขาดทุนสุทธิ จากการเข้า Low Season ของโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2/66 ออกมาต่ำกว่าคาด จากผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมที่อ่อนแอ หลังต้นทุนการเปิดโรงแรมใหม่ที่ญี่ปุ่น และสัญญาเช่าเซ็นทาราแกรนด์หัวหินสูงกว่าคาด


ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/66 คาดกำไรปกติทรงตัวจากไตรมาสก่อน แม้คาดรายได้ของทั้งธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร จะเติบโตตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น แต่คาดถูกหักล้างกับต้นทุนดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมที่เพิ่มขึ้น


อย่างไรก็ตาม กำไรปกติครึ่งแรกปี 2566 คิดเป็น 38% ของประมาณการปี 2566 ของเราที่ 1.8 พันล้านบาท หรือเติบโต 367% จากปีก่อน แม้แนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสเด่นกว่าครึ่งปีแรก จากการที่ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารจะเข้า High Season ที่ได้แรงหนุนของการท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้นตัว


แต่เพื่อให้ประมาณการของเราอนุรักษนิยมมากขึ้น เราปรับลดประมาณการปี 2566 ลง 26% เป็นกำไรปกติ 1.3 พันล้านบาท จากเดิมคาด 1.8 พันล้านบาทและปี 2567 ลง 21% เป็นกำไรปกติ 1.9 พันล้านบาท จากเดิมคาด 2.4 พันล้านบาท หลักๆจากการปรับเพิ่มสมมติฐานรายได้ธุรกิจโรงแรม อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร และปรับเพิ่มต้นทุนทางการเงินขึ้นสะท้อนสัญญาเช่าใหม่ของโรงแรมที่หัวหิน(เริ่มใช้ พ.ค.2566) และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงขึ้น


นอกจากนี้ คงคำแนะนำ “TRADING” ผลของการปรับลดประมาณการ ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ของเราปรับลดเป็น 48.00 บาทต่อหุ้น คาดตลาดจะตอบสนองเชิงลบต่อราคาหุ้น จากผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดและผลประกอบการระยะสั้น ไตรมาส 3/66 ยังไม่เด่นตามปัจจัยฤดูกาล ทำให้หุ้นขาดปัจจัยหนุน อย่างไรก็ดี หากราคาหุ้นปรับตัวลงไปที่ระดับ 43.00 บาทต่อหุ้น อาจเป็นจุดที่น่าสนใจทยอยสะสมเพื่อรอลุ้นการฟื้นตัวเด่นก่อนเข้าไฮซีซั่นในไตรมาส 4/66


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ