CPALL ดัน 7-Eleven บุกลาว คาดเปิดสาขาแรก ก.ย.นี้ อัดงบ 1.3 หมื่นล้าน ขยายตลาดในประเทศเพิ่ม

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

CPALL ดัน 7-Eleven บุกลาว คาดเปิดสาขาแรก ก.ย.นี้ อัดงบ 1.3 หมื่นล้าน ขยายตลาดในประเทศเพิ่ม

Date Time: 15 ส.ค. 2566 13:40 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • CPALL ขยายสาขา 7-Eleven ใหม่ต่อเนื่อง คาดเห็น สปป.ลาว สาขาแรก กันยายนนี้ พร้อมอัดงบ 1.3 หมื่นล้านบาท ขยายตลาดในประเทศเพิ่ม

จิราพรรณ ทองตัน หัวหน้าสำนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทวางงบลงทุนทั้งปี 2566 รวม 12,000-13,000 ล้านบาท สำหรับการขยายสาขาเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) ใหม่ และรีโนเวตสาขาเดิม รวมถึงการพัฒนาระบบภายในเพื่อสนับสนุนธุรกิจ


ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการขยายสาขา 7-Eleven ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขยายสาขาในไทยปีนี้ 700 สาขา ซึ่งครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 377 สาขา ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ บริษัทคาดว่าจะสามารถเปิดสาขาแรกใน สปป.ลาว ได้ภายในเดือนกันยายนนี้ พร้อมแผนขยายสาขาในกัมพูชา จำนวน 10 สาขา


อย่างไรก็ดี การขยายสาขาไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้และกำไร ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์ส่วนเพิ่มในอนาคต จากประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว ถือเป็นประเทศที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ยังมีคู่แข่งไม่มาก ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจในการตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบสินค้าที่วางขายใน 7-Eleven ของไทย


นอกจากนี้ บริษัทมองว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 มีโอกาสทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรก จากโอกาสการเติบโตของยอดขายต่อร้านต่อวัน (SSSG) คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าหน้าร้าน พร้อมกับแนวโน้มการบริโภคสินค้าที่มีความพรีเมียมขึ้น จะช่วยคงยอดขายต่อบิลให้ยังอยู่ในระดับมากกว่า 80 บาทได้


พร้อมกันนี้ บริษัทมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น หลังคนเริ่มคุ้นชินและใช้ชีวิตเป็นปกติ โดยมีความกังวลต่อโรคระบาดโควิด-19 ลดลง รวมถึงภาคท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดี โดยประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ระดับ 25 ล้านคน ส่งผลให้กิจกรรมเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มฟื้นตัวได้


จิราพรรณ กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่จะเข้ามาเป็นส่วนสนับสนุนการเติบโตของบริษัท คือ ความชัดเจนของประเด็นทางการเมือง ซึ่งหากสามารถมีการจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว และมีการออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ จะเป็นปัจจัยพิเศษที่ทำให้ยอดขายปรับตัวดีขึ้น


ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จํากัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ มีโอกาสโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากครึ่งปีแรก โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และกำลังซื้อหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จสิ้น ประกอบกับต้นทุนค่าไฟลดลง และได้รับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เพิ่มขึ้น หลังดอกเบี้ยจ่ายลดลง


ในเชิงมูลค่า ราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อขายที่ค่าเฉลี่ย อัตราส่วนพีอีย้อนหลัง 5 ปี ที่ระดับ -1.0SD คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ที่ 73 บาทต่อหุ้น โดยยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยง คือ การแข่งขันที่สูงขึ้น มีผลกระทบค่าใช้จ่ายจากการจัดกิจกรรมกระตุ้นกำลังซื้อ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ