การบินไทย พร้อมเทกออฟ โชว์กำไรไตรมาส 2 ทะลุ 2 พันล้าน

บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) ได้รายงานผลการดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้น ครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 34,954 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 15,218 ล้านบาท (77.1%) สาเหตุสําคัญเนื่องจากรายได้จากการขนส่ง ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นรวม 16,999 ล้านบาท (149.8%) เป็นผลจากปริมาณการผลิตและการขนส่งเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทฯ ได้เพิ่มความถี่เที่ยวบิน ในเส้นทางบินยอดนิยม และมีจุดบินในประเทศจีนเพิ่มขึ้น 5 จุดบิน และประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2 จุดบิน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 

นอกจากนี้รายได้กิจการอื่น เพิ่มขึ้น 512 ล้านบาท (27.6%) โดยหน่วยธุรกิจ ส่วนใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากจํานวนผู้โดยสารของสายการบินลูกค้าเพิ่มขึ้น ยกเว้นรายได้จากธุรกิจคลังสินค้า สําหรับค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 26,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6,490 ล้านบาท (32.8%) สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายดําเนินงานไม่รวมค่าน้ํามันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 41.5% โดยมีค่าใช้จ่ายที่แปรผัน ตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้น  51.9% ค่าใช้จ่ายน้ํามันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 19.7% ส่งผลให้มีกําไร จากการดําเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 8,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8,728 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีกําไรจากการดําเนินงานติดต่อกัน 4 ไตรมาสอย่างต่อเนื่อง

บริษัทฯ มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็น ค่าใช้จ่ายรวม 3,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจํานวน 4,097 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากรายการประมาณการหนี้สินค่าซ่อม A320-200 จากการรับโอนเครื่องบินไทยสมายล์ จํานวน 3 ลํา ตามแผนปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบิน 1,033 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 2,930 ล้านบาท ขณะที่มีกําไรจากการปรับโครงสร้างหนี้

บริษัทฯ มีกําไรสุทธิ 2,030 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนสุทธิ 2,795 ล้านบาท คิดเป็นกําไรต่อหุ้น 0.93 บาท เปรียบเทียบกับปีก่อนที่ขาดทุนต่อหุ้น 1.28 บาท โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไข สัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินที่คํานวณจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hour) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 เป็นกําไรจํานวน 8,198 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 5,359 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกําไรจากการดําเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่ รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจํานวน 21,609 ล้านบาท กําไรสูงกว่าปีก่อน 26,078 ล้านบาท (583.5%) รายได้รวม จํานวน 78,889 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46,183 ล้านบาท (141.2%)

สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากกิจการขนส่งเพิ่มขึ้น 44,799 ล้านบาท (151.9%) โดยมีรายได้จากค่าโดยสารและน้ําหนักส่วนเกินเพิ่มขึ้น  270.0% จากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วย (รวมค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ํามันและค่าเบี้ย ประกันภัย) สูงกว่าปีก่อน

ในขณะที่รายได้จากค่าระวางขนส่งและไปรษณียภัณฑ์ลดลง 29.6% จากรายได้พัสดุภัณฑ์ เฉลี่ยต่อหน่วยลดลง 41.4% ถึงแม้ว่าปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (RFTK) สูงขึ้น 19.2% ก็ตาม นอกจากนี้รายได้จากกิจการอื่นๆ เพิ่มขึ้น 32.3% สาเหตุหลักเกิดจากจํานวนเที่ยวบินและจํานวนผู้โดยสารของสายการบินลูกค้าเพิ่มขึ้น

ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) ยังคงดําเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ทั้งการหารายได้จากการขนส่งที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสําคัญ การปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบิน และการหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการดําเนินธุรกิจ โดยในไตรมาสนี้มีการดําเนินงานที่สําคัญ ได้แก่

- การดําเนินการตามแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบิน : รับมอบเครื่องบินแบบ A350-900 จํานวน 2 ลํา ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติการบินตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 เพื่อรองรับแผนการเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเมืองสําคัญ เช่น กวางเจา เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ฯลฯ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพฝูงบินให้รองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน และเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

การหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการดําเนินธุรกิจ : จําหน่ายเครื่องบินแบบ B747-400 จํานวน 1 ลําและ B737-400 จํานวน 1 ลํา รวมทั้งเครื่องยนต์อะไหล่ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จํานวน 4 เครื่องยนต์ ซึ่งส่งมอบให้กับผู้ซื้อแล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จําหน่ายหุ้นในบริษัท ขนส่งน้ํามันทางท่อ จํากัด จํานวน 1,868 หุ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้รับเงิน และโอนหุ้นให้ผู้ซื้อแล้ว

การปรับโครงสร้างการดําเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบิน : เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 คณะกรรมการ เจ้าหนี้ของบริษัทฯ ได้มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างการดําเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบินของบริษัทฯ ตามแนวทางที่คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการและฝ่ายบริหารนําเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการฝูงบินให้สามารถวางแผนและพัฒนาเครือข่ายเส้นทางบินและเที่ยวบินให้ครอบคลุมความต้องการของผู้โดยสารได้อย่างไร้รอยต่อ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ได้รับโอนเครื่องบิน A320-200 จํานวน 3 ลํา เข้ามาประจําฝูงบินของบริษัทฯ เพื่อเตรียมทําการบินในเส้นทางระหว่างประเทศ ได้แก่ เดลี มุมไบ ย่างกุ้ง และธากา โดยบริษัทฯ จะทําการทยอยรับโอนเครื่องบินจนครบ 20 ลําต่อไป

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับรางวัล 1 ใน 10 สายการบินที่มีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ดีที่สุดของโลก (World's Best Airline Cabin Crew) และสายการบินที่มีพนักงานให้บริการที่ดีที่สุดของเอเชีย (Best Airline Staff in Asia) จากการประกาศรางวัลของสกายแทรกซ์ ประจําปี 2566 (The 2023 Skytrax World Airline Awards) ซึ่งรางวัลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการให้บริการของบริษัทฯ อยู่ในระดับมาตรฐานที่นานาชาติยอมรับ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพทั้งการให้บริการและผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในทุกด้าน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความพึงพอใจสูงสุดต่อไป

โดยณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีเครื่องบินที่ใช้ทําการบินทั้งสิ้น 67 ลํา โดยมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน 11.8 ชั่วโมง มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 47.2% ปริมาณการขนส่ง ผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 93.1% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 79.2% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 60.3% และมีจํานวนผู้โดยสารที่ทําการขนส่งรวมทั้งสิ้น 3.35 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 66.7% สําหรับด้านการขนส่งสินค้ามีปริมาณการผลิตด้านพัสดุภัณฑ์ (ADTK) สูงกว่าปีก่อน 49.9% ปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (RFTK) สูงกว่าปีก่อน 10.9% อัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (Freight Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 51.1% ขณะที่ปีก่อนเฉลี่ยเท่ากับ 69.0%