บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 2,882 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9 % และงวดหกเดือนของปี 2566 ที่ 5,572 ล้านบาท และมากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 7% โดยกําไรสุทธิในไตรมาส 2/2566 เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน สวนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกําไรจากเอไอเอส เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการ และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสทธิภาพ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด
ในปี 2566 ผลการดําเนินงานของกลุ่มอินทัชไม่มีสวนแบ่งกําไรจากไทยคม เนื่องจากอินทัชได้ขายเงินลงทุนในไทยคมไปเมื่อปลายปี 2565 ซึ่งหากไม่รวมการลดลงของส่วนแบ่งผลกําไรจากการดําเนินงานที่ยกเลิก (ไทยคม) ผลการดําเนินงานของกลุ่มอินทัชในไตรมาสนี้ และงวดหกเดือนของปีนี้ เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2565 และงวดหกเดือนของปี 2565
ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกําไรจากเอไอเอสจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการและการควบคุมค่าใช้จ่าย ด้านการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ และเอไอเอสมีกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในปีนี้ ในขณะที่ปีก่อนมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
ส่วนผลการดําเนินงานเฉพาะบริษัทในไตรมาส 2/2566 และงวดหกเดือนของปี 2566 อินทัชมีสวนแบ่งกําไรจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วมรวม 2,902 ล้านบาท และ 5,636 ล้านบาท ตามลําดับ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของผลกําไรของเอไอเอส สําหรับค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของอินทัช สําหรับไตรมาส 2/2566 และงวดหกเดือนของปี 2566 อยู่ที่ 37 ล้านบาท และ 79 ล้านบาท ตามลําดับ
อย่างไรก็ตาม INTUCH ประกาศจ่ายเงินปันผล โดยปัจจุบันอินทัชมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลจากงบการเงินเฉพาะบริษัท โดยพิจารณาจ่ายในอัตราร้อยละ 100 จากเงินปันผลที่ บริษัทได้รับจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยหลังหักค่าใชจ่าย หากไม่มีเหตุจําเป็นอื่นใด และการจ่ายเงินปันผลนั้นไม่มีผลกระทบต่อการดําเนินงานปกติ ของอินทัชอย่างมีนัยสําคัญ โดยจะมีการจ่ายเงินปันผล 1.47 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวัน ที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ก่อนวันที่ 23 ส.ค. 2566 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 08 ก.ย. 2566