ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 ส.ค.66 ปิดที่ 1,532.51 จุด เพิ่มขึ้น 2.05 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 46,462.36 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 394.03 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 123 บาท บวก 1 บาท, BBL ปิด 172.50 บาท บวก 4.50 บาท, CPALL ปิด 60 บาท ลบ 0.75 บาท, PTT ปิด 34.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, AOT ปิด 70.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นไทยพลิกกลับมาปิดบวก ได้แรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากการเมือง โดยเฉพาะหุ้นรับเหมาก่อสร้างปรับตัวขึ้นมากสุด หลังพรรคเพื่อไทยประกาศจับมือภูมิใจไทยตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ ยังต้องติดตามว่าจะมีการดึงพรรคการเมืองใดเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลบ้าง เพื่อให้ได้เสียงโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเกินครึ่งคือ 375 เสียงขึ้นไปรวมทั้งคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 16 ส.ค.นี้
บล.เอเซีย พลัส ชี้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ยังคงอยู่ในช่วงสุญญากาศการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง รวมถึงยังเป็นช่วงการรายงานงบการเงินไตรมาส 2/66 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งฝ่ายวิจัยฯรวบรวมข้อมูลกำไรงวดไตรมาส 2/66 ที่รายงานออกมาแล้ว 1.04 แสนล้านบาท ลดลง 4% เทียบไตรมาส 1/66 และเพิ่มขึ้น 6.5% จากไตรมาส 2/65 (คิดเป็นสัดส่วน 27% ของมูลค่ากิจการรวมทั้งตลาด)
แต่หากนำมารวมกับบริษัทที่ฝ่ายวิจัยฯได้ทำคาดการณ์กำไรแล้ว จะพบว่ากำไรงวดไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท (คิดเป็น 53% ของมูลค่ากิจการรวมทั้งตลาด) ลดลง 10.5% จากไตรมาส 1/66 และลดลง 25.6% จากไตรมาส 2/65 กดดันให้สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงเผชิญกับการรายงานงบงวดไตรมาส 2/66 ที่มีโอกาสลดลงเมื่อเทียบกับทั้งไตรมาส 1/66 และไตรมาส 2/65 และยังอยู่ภายใต้สุญญากาศทางการเมืองอีกด้วย
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส จึงแนะกลยุทธ์การลงทุนให้สะสม หุ้นงบไตรมาส 2/66 มี Earning Play หรือหุ้นแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/66 มีโอกาสเติบโตเด่นทั้งไตรมาส 1/66 และไตรมาส 2/65 สวนทางกับภาพรวมตลาด อย่าง MINT, MAJOR, CK, BGRIM, PLANB, BEM, JMT, SNNP, ADVANC, INTUCH, CPN, III, SIRI!!
อินเด็กซ์ 51