บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น VGI ปรับลงมาแรงกว่า -18% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เราเชื่อว่าบริษัทจะขาดทุนหนักขึ้นเป็น 333 ล้านบาทขึ้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นลดลง เราน่าจะปรับประมาณการปี 2567 เป็นขาดทุนหนักขึ้นอีกจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงของบริษัทร่วม (JMART และ KEX) แต่ถึงแม้จะปรับลดประมาณการกำไรลงแล้ว ในกรณีเลวร้ายที่สุดที่บริษัทร่วมเหล่านี้ไม่ได้สร้างมูลค่าใดๆ ให้ VGI เลย ราคาเป้าหมายยังคงอยู่ที่ 3.80 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบัน ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ VGI
เราคาดว่าผลขาดทุนจากธุรกิจหลักของ VGI จะเพิ่มขึ้นเป็น 333 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 จากที่ขาดทุน 139 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 และจากที่ขาดทุน 260 ล้านบาทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ซึ่งสาเหตุสำคัญยังคงเป็นเพราะผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมแย่ลง โดยเฉพาะ JMART และ KEX เราใช้สมมติฐานสำคัญในประมาณการ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2567
ดังนี้
1 ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากบริษัทร่วมจะเพิ่มขึ้นเป็น 250 ล้านบาท จากขาดทุน 101 ล้านบาทใน ไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 และจากขาดทุน 193 ล้านบาทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 เพราะ KEX และ JMART ขาดทุนหนักขึ้น
2 เราคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จะลดลง 5% จากไตรมาสก่อน โดยคาดว่ารายได้จากสื่อ OOH จะเพิ่มขึ้นทั้ง 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อน และรายได้จากสื่อ OOH จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้รวมจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้า คิดเป็น 28% ของรายได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ที่ผ่านมา จะเป็นตัวฉุด ให้รายได้รวมลดลงจากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้รายได้ลดลงยังคงเป็น Fanslink
3 อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 31% จาก 26% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 และในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 เนื่องจากมีรายได้จากสื่อ OOH (ซึ่งมี margin สูง) เพิ่มขึ้น
4 เราคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะยังอยู่ในระดับสูงที่ 596 ล้านบาท เหมือนกับใน ไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ซึ่งจะคิดเป็นสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 50%
อย่างไรก็ตาม บล.กรุงศรี ชี้ว่า บริษัท น่าจะปรับลดประมาณการปี 2567 เป็นขาดทุนหนักขึ้น ถ้าผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 เป็นไปตามที่เราคาดไว้ ผลขาดทุนในปีนี้จะสูงกว่าประมาณการของเราที่ 190 ล้านบาท ถึงแม้เราจะมองบวกกับธุรกิจสื่อ OOH แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทร่วม และบริษัทย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก JMART และ KEX ยังประเมินยาก ดังนั้น เราจึงน่าจะปรับลดประมาณการปี 2567 ลงอีกหลังจากที่บริษัทประกาศผลประกอบการรายไตรมาสออกมา
เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ร่วงลงมาแรงถึง 18% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาน่าจะสะท้อนผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มอ่อนแอใน ไตรมาสที่ 1 ไปแล้ว ในขณะที่อาจจะมีการปรับลดประมาณการลงอีกจากบริษัทในเครือซึ่งได้แก่ JMART และ KEX เราประเมินราคาเป้าหมายของ VGI ที่ 4.27 บาท โดยใช้วิธี SoTP โดยประเมินมูลค่าในส่วนที่ VGI ถือหุ้นใน JMART และ KEX ที่ 0.54 บาท/หุ้น ซึ่งหากตัดมูลค่าส่วนนี้ออกไป ราคาเป้าหมายของเราจะอยู่ที่ 3.80 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ดี ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ VGI