นักวิเคราะห์ชี้ TRUE พลิกมีกำไรต้นปีหน้า คาดผลงานฟื้นตัวจากการแข่งขันลด รายได้ค่าบริการเพิ่ม

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

นักวิเคราะห์ชี้ TRUE พลิกมีกำไรต้นปีหน้า คาดผลงานฟื้นตัวจากการแข่งขันลด รายได้ค่าบริการเพิ่ม

Date Time: 2 ส.ค. 2566 11:36 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ออกมาแล้ว พลิกความคาดหมาย เมื่อบริษัทประกาศว่า มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 2,319 ล้านบาท โดยการขาดทุนดังกล่าวนั้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และส่งผลให้การที่บริษัทจะพลิกมีกำไรสุทธิอีกครั้ง อาจต้องรอถึงปี 2567 และในขณะเดียวกันการแข่งขันที่ลดลง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทพลิกมีกำไร

Latest


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ประเมินว่า ผลการดำเนินงานของ TRUE ที่ประกาศออกมาในไตรมาสที่ 2 นั้นแย่กว่าที่คาดไว้ ยังขาดทุนต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ซึ่งแย่กว่าที่เราคาดไว้ โดยการประกาศผลการดำเนินงานของ TRUE ขาดทุนสุทธิ 2.3 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไร 2.55 พันล้านบาท

ซึ่งผลประกอบการออกมาแย่กว่าประมาณการของเราและตลาด เนื่องจากมีรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหลายรายการ ได้แก่ การ write-off ผลขาดทุนทางภาษีที่ carry forward แต่ไม่ได้ใช้ (จาก DTAC) 1.75 พันล้านบาท, การกลับรายการสำรองการชำระค่า IC ให้กับ NT 1.48 พันล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 545 ล้านบาท

 

แต่หากไม่รวมรายการเหล่านี้ ผลขาดทุนจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท ซึ่งยังคงแย่กว่าที่เราคาดไว้ว่าจะขาดทุนเพียง 1 พันล้านบาท โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการแย่เกินคาดคือค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น จากการปรับการบันทึกบัญชีในส่วนของอายุการใช้งานของสินทรัพย์ (ให้สั้นลง) หลังการควบรวมกิจการ ซึ่งเราประเมินว่าผลของอายุการใช้งานสินทรัพย์ที่สั้นลง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท

 

คาด TRUE พลิกมีกำไรต้นปีหน้า 

ถึงแม้ว่ารายการนี้จะเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด (non-cash) แต่จะทำให้การพลิกฟื้นเป็นกำไรเลื่อนออกไปจากเดิม ที่คาดว่าจะมีกำไรในไตรมาสที่ 4 เลื่อนออกไปเป็นไตรมาสที่ 1 ในปี 2567 เรายังต้องนำรายการนี้มาใส่ในแบบจำลองของเราด้วย ถึงแม้ว่าค่าเสื่อมราคาจะสูงขึ้น แต่เรามองว่ายังมีสองปัจจัยบวก คือ ARPU ที่ทยอยขยับเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของบริการมือถือ (ทรงตัวจากไตรมาสก่อน) และ FBB เพิ่มขึ้น 2.6% จากไตรมาสก่อน และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง 24% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ ผลขาดทุนจากธุรกิจหลักใน 1H23 อยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท  

 

 

 

การแข่งขันลดช่วย TRUE พลิกมีกำไร

 

บล.กรุงศรี ได้ปรับลดประมาณการปี 2023-24 จากการปรับค่าเสื่อมราคาใหม่ เราปรับลดประมาณการปี 2023-24 เพื่อสะท้อนค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลขาดทุนปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านบาท จากเดิม 650 ล้านบาท เราปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2024 ลง 10% เหลือ 1.9 พันล้านบาท ถึงแม้เราจะปรับลดประมาณการลง แต่เรายังคาดว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง จะดีกว่าในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จากสภาวะการแข่งขันที่เบาลง ส่งผลให้ ARPU เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง

 

อย่างไรก็ตาม เรายังคงคำแนะนำซื้อ TRUE และคงราคาเป้าหมายเอาไว้เท่าเดิมที่ 9 บาท เราปรับลดประมาณการกำไรลง เนื่องจากเราปรับสมมติฐานค่าเสื่อมราคา ซึ่งเป็นรายการประเภทที่ไม่ใช่เงินสด (non-cash) เราแนะนำซื้อจากธีมของการฟื้นตัวจากขาดทุนมาเป็นกำไร จากการที่ ARPU เพิ่มขึ้น และประหยัดต้นทุนได้จากการควบรวม

 

 

บล.บัวหลวง มองว่า การที่ TRUE รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาสที่ 2 ที่ 2.32 พันล้านบาท หักรายการพิเศษ ขาดทุนหลักอยู่ที่ 2.59 พันล้านบาท ขาดทุนมากขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน ขาดทุนมากกว่าที่เราคาด 158% เนื่องจากรายได้บริการต่ำกว่าคาด 2.5% และค่าเสื่อมราคา-ตัดจำหน่ายมากกว่าคาดไว้ 10% แนวโน้มไตรมาสที่ 3 คาดผลขาดทุนจะลดลง หนุนโดยรายได้บริการเพิ่มขึ้นและการแข่งขันลดลง เราปรับลดประมาณการขาดทุนหลักทั้งปี 2566 ลงอีก 162% และราคาเป้าหมายอิง DCF ลง 4% เป็น 9.4 บาท แต่ยังคงแนะนำซื้อเก็งกำไร เนื่องจากมองว่าแนวโน้มต่างๆ จะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง.

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์