เบทาโกร หวังฉีกภาพธุรกิจเกษตร ทุ่มงบ 100 ล้าน ปั้นแบรนด์ S-Pure ชูธุรกิจอาหารพรีเมียมเป็นเรือธง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เบทาโกร หวังฉีกภาพธุรกิจเกษตร ทุ่มงบ 100 ล้าน ปั้นแบรนด์ S-Pure ชูธุรกิจอาหารพรีเมียมเป็นเรือธง

Date Time: 25 ก.ค. 2566 17:04 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • เบทาโกร ชูธุรกิจอาหารซุปเปอร์พรีเมียมเป็นเรือธงปีนี้ ทุ่มงบ 100 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ดันเป้ารายได้ S-Pure โต 17%

Latest


ข้อมูลคาดการณ์ในปี 2566 ตลาดอาหารซุปเปอร์พรีเมียมจะมีมูลค่าอยู่ที่ 57,100 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซื้อเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น แรงหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น เลือกอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัยสูง ถือเป็นเมกะเทรนด์สำคัญในธุรกิจอาหาร


ล่าสุด บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG ทุ่มงบ 100 ล้านบาท เปิดตัวแบรนด์ S-Pure ด้วยแคมเปญการตลาดใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับ S-Pure ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ และให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% โดยมีภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของ S-Pure ที่มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ และมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตเพื่อการมีสุขภาพดี โดยวางเป้าหมายยอดขายแบรนด์ S-Pure โต 17% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดอาหารซุปเปอร์พรีเมียม


ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า การเปิดตัวแคมเปญการตลาดใหม่ของ S-Pure ในครั้งนี้จึงมาพร้อมกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "S-Pure Prime" เนื้อสัตว์แปรรูปสไตล์โฮมเมด ประกอบด้วย ไส้กรอกเวียนนา, เบคอนหมูรมควัน, พอร์คลอยน์แฮมรมควัน, โบโลญ่าหมู และโบโลญ่าไก่ ปราศจากการสารเคมี และใช้วัตถุดิบจากเนื้อหมู เนื้อไก่ S-Pure 100% นับเป็นผลิตภัณฑ์ อาหารฉลากสะอาด (Clean Label) รายแรกในประเทศไทย


ขณะเดียวกัน บริษัทคาดว่ายอดขายของแบรนด์ S-Pure จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และถือเป็นหนึ่งในธุรกิจเรือธงปีนี้ของเบทาโกร พร้อมกับจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดขายของเบทาโกรให้เติบโตตามเป้าหมาย เพื่อก้าวสู่แบรนด์ธุรกิจอาหารชั้นนำระดับโลกต่อไป


เบทาโกร ไม่ใช่แค่เกษตร 


ปัจจุบันนักลงทุนมองว่าหุ้นของเบทาโกร เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจการเกษตร (Agricultural) เพียงอย่างเดียว แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของเบทาโกรที่กำลังมุ่งเน้นไปยังกลุ่มธุรกิจอาหารมากขึ้น จะทำให้นักลงทุนได้เห็นศักยภาพ และให้มูลค่าหุ้นของเบทาโกรในมุมของการเป็น บริษัทที่ทำธุรกิจอาหาร (Food company) ไม่ใช่เพียงธุรกิจการเกษตร (Agricultural company) เพราะฉะนั้น หลังจากการดำเนินแผนธุรกิจภายใต้แบรนด์ S-Pure เชื่อว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ


อย่างไรก็ดี แบรนด์ S-Pure ถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจอาหารสด กลุ่ม Super Premium Market ด้วยส่วนแบ่งการตลาดในไทยมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับคู่แข่งอีกราว 3-4 แบรนด์ในตลาด ซึ่งแม้ว่าจะมีโอกาสการเข้ามาของคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จากแนวโน้มการบริโภคอาหารพรีเมียมจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมแบบบริษัท ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก


บริษัทได้เริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ในซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ รวมถึงเบทาโกรช็อป เบทาโกรเดลี่ และแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมกับได้เริ่มการส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกงบางส่วน ซึ่งเป็นการส่งออกในรูปแบบอาหารสด ไม่แช่แข็ง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นไม่ต้องมีการลงทุนเพิ่ม เนื่องจากบริษัทมีพันธมิตรในการผลิตที่ได้มาตรฐานอยู่แล้ว


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์