KCC ขยับฐานะเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ขยายธุรกิจซื้อหนี้ Non bank มาบริหารได้

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

KCC ขยับฐานะเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ขยายธุรกิจซื้อหนี้ Non bank มาบริหารได้

Date Time: 15 ก.ค. 2566 05:05 น.

Summary

  • คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท โดยจัดตั้ง “บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)”

Latest

เก็บหุ้นปันผล

นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับแคปปิตอล (KCC) ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท โดยจัดตั้ง “บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)”

โดยการยกระดับเป็นบริษัทโฮลดิ้ง มีวัตถุประสงค์หลัก คือ 1.เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ ลดข้อจำกัดด้านการลงทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มบริษัท เพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว 2.เพื่อให้สามารถแบ่งแยกขอบเขตการบริหารธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจได้อย่างชัดเจน โดยจะสามารถจำกัดความเสี่ยงจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม 3.เพื่อให้สามารถขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ดีในอนาคต เป็นต้น

“การยกฐานะขึ้นเป็นโฮลดิ้งจะทำให้มีความคล่องตัว สามารถลงทุนซื้อหนี้จากบุคคลและนิติบุคคลอื่น (Non bank) ที่ไม่ใช่เฉพาะหนี้จากสถาบันการเงิน มาบริหารจัดการ เช่น หนี้หุ้นกู้ หนี้การค้า ซึ่ง AMC ไม่สามารถเข้าไปซื้อได้ การปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้งจึงทำให้บริษัทสามารถขยายช่องทางในการซื้อหนี้ได้มากขึ้น เพราะบริษัทมีความชำนาญในเรื่องของการซื้อหนี้อยู่แล้ว แต่ KCC จะยังคงเน้นธุรกิจ AMC ที่บริษัทมีประสบการณ์และประสบความสำเร็จ ตามทิศทางการเปิดประมูลหนี้ของสถาบันการเงินที่ยังมีต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทก็เห็นโอกาสเข้าไปประมูลหนี้ที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้ศาลล้มละลายที่เริ่มมีเพิ่มมากขึ้น”

นายทวีกล่าวต่อว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้ บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้น โดยบริษัทโฮลดิ้งจะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อแลกเปลี่ยนกับหุ้นสามัญของบริษัท ในอัตรา 1 หุ้นสามัญของบริษัท ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทโฮลดิ้ง และภายหลังการทำคำเสนอซื้อของบริษัทโฮลดิ้งเสร็จสิ้น จะนำหุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) แทนหุ้นสามัญของ KCC โดยบริษัทโฮลดิ้งจะถือหุ้น KCC เกือบ 100% “การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะไม่กระทบต่อหุ้นกู้ของบริษัท เพราะฐานะการเงิน ผลการดำเนินงานของบริษัท หรือความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้ไม่แตกต่างไปจากเดิม เนื่องจากบริษัทในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ยังคงมีรายได้มาจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์เหมือนเดิมทุกประการ”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ