ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ดำเนินการกล่าวโทษกลุ่มบุคคลรวม 18 ราย ในฐานะตัวการร่วม กรณีร่วมกันสร้างราคา หรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 อันทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคา หรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ MORE ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) ประกอบบทสันนิษฐานของมาตรา 244/5 และมาตรา 244/6 (แล้วแต่กรณี) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566* นั้น
ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการกระทำความผิดเพิ่มเติม ในกรณีการสร้างราคา หรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE และพบข้อเท็จจริงรวมถึงพยานหลักฐานที่สนับสนุนให้เชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลรวม 32 ราย** ได้แก่ (1) นายอภิมุข บำรุงวงศ์ (2) นายเอกภัทร พรประภา (3) นายอธิภัทร พรประภา (4) นางอรพินธุ์ พรประภา (5) นายอิทธิวรรธน์ วรรณะเอี่ยมพิกุล (6) บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด (7) บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด (8) นายสมนึก กยาวัฒนกิจ (9) นายโสภณ วราพร (10) นายวสันต์ จาวลา (11) Mr. Shubhodeep Prasanta Das (12) นายประยูร อัสสกาญจน์ (13) นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ (14) นางสาวสุร์ศิริ ปรีดาสุทธิจิตต์ (15) นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา (16) นางสาวอัยลดา ชินวัฒน์ (17) นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ (18) นายมั่นคง เสถียรถิระกุล (19) นางสาวอรเก้า ไกยสิทธิ์ (20) นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช (21) นางสาวสิริรัตน์ สมณาศรี (22) นายธีรพงศ์ ด่านวณิชวงศ์ (23) นายวิศรุต เจียมจิตพลชัย (24) นายปรณัฐ นุชาชาติพงศ์ (25) นายภูดิท สุจริตกุล (26) นายวัชรินทร์ ยังให้ผล (27) นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา (28) นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง (29) นายภัทร ฉัตรเจริญสุข (30) นายชยพล พันธุ์แพ (31) นายพิเชษฐ์ ผลสุวรรณชัย และ (32) นางศศินภา วราพร ได้ร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในช่วงระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 - 10 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวข้างต้นซึ่งมีความสัมพันธ์ระหว่างกันทั้งด้านความสัมพันธ์ส่วนตัว ทางเงิน การซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงช่องทางและสถานที่ในการส่งคำสั่งซื้อขาย ได้แบ่งหน้าที่กันหรือตกลงร่วมกันในการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคา หรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ รวมทั้งส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ผิดไปจากสภาพปกติของตลาดอันเข้าข่ายเป็นฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) และ (2) ประกอบมาตรา 244/5 และมาตรา 244/6 (แล้วแต่กรณี) แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยผลประโยชน์ที่กลุ่มผู้กระทำความผิดทั้งหมดได้รับหรือพึงได้รับ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท ก.ล.ต.จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 32 ราย ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อ ปปง. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ
ในกรณีนี้ ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมโดยประสานความร่วมมือกับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย บก.ปอศ. ในการตรวจสอบรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายในการทำงานเชิงรุกร่วมกันในการสืบสวนและตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับตลาดทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย
____________________________________
หมายเหตุ :
* ข่าว ก.ล.ต. ฉบับที่ 27/2566 เรื่อง “ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 18 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE” เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=9858
** กลุ่มบุคคลรวม 32 ราย มีบุคคล 18 ราย ที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษต่อ บก.ปอศ. เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 รวมอยู่ด้วย