“สรรพากร” ฮึ่มตรวจภาษี STARK “อาคม” กำชับก.ล.ต.ดูแลนักลงทุนด่วน!

สรรพากรเสียงเข้ม!! พร้อมเข้าตรวจสอบภาษี STARK ด้าน “อาคม” รับปัญหา STARK กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนกำชับ ก.ล.ต.ดูแลและสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนโดยด่วน ขณะที่ ก.ล.ต.ขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ STARK ที่จ่อผิดนัดชำระหนี้ ใช้สิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ในวันที่ 23 มิ.ย.66 โดยพร้อมเพรียง

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากร จะเข้าตรวจสอบภาษีของบริษัท สตาร์ค คอเปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) อย่างละเอียดแน่นอน โดยเฉพาะเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งทั้งหมดต้องปฏิบัติตามว่าด้วยข้อกฎหมาย จึงขอให้มั่นใจกรมสรรพากรได้ดำเนินการอยู่แล้ว “หลักเกณฑ์ภาษีมีชัดเจน ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้กรมสรรพากรต้องเข้าไปดูอยู่แล้วว่าจ่ายภาษีให้รัฐครบถ้วนและถูกต้องหรือไม่ ทั้งหมดต้องเป็นไปตามกฎหมาย ถามว่ากรมดูเรื่องนี้ไหม ตอบอย่างมั่นใจเลยว่าดูอยู่แล้ว”

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหา STARK ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นตลาดทุนและนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ได้กำชับไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ออกมาตรการดูแลนักลงทุนอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดทุนและนักลงทุนด้วย “ได้กำชับ ก.ล.ต.ว่าต้องไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นเดียวกันเกิดขึ้นซ้ำอีก และต้องดูแลและคุ้มครองผู้ลงทุนเป็นอันดับแรก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ซึ่งทุกครั้งที่ไปร่วมประชุมในเวทีระดับโลกเกี่ยวกับตลาดทุน ที่ประชุมจะให้ความสำคัญมาตรการกำกับดูแลตลาดหุ้น โดยเน้นเรื่องการคุ้มครองนักลงทุน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมสำหรับผู้เล่นในตลาดทุน ขณะเดียวกันได้ประสานงานไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อให้ดูแลคุ้มครองนักลงทุนด้วย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ STARK ใช้สิทธิในการประชุมผู้ถือ หุ้นกู้ ซักถามผู้ออกหรือผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนและเพียงพอต่อการตัดสินใจลงมติ ตามที่ธนาคารกสิกรไทย และ บล.เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ของ STARK จะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งที่ 3/66 ในวันที่ 23 มิ.ย.66 เวลา 14.00 น. สำหรับหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น ด้วยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้ 1.หุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 67 (STARK245A) โดยมีธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ 2.หุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 68 (STARK255A) โดยมีธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ 3.หุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 67 (STARK242A) โดยมี บล.เอเซีย พลัส เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

โดยการประชุมมีวาระเพื่อพิจารณา ดังนี้ วาระที่ 1 พิจารณาอนุมัติให้มีการลงมติเกี่ยวกับเหตุผิดนัดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต วาระที่ 2 พิจารณาเหตุผิดนัดไขว้ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต วาระที่ 3 พิจารณาเหตุผิดนัดจากการที่ผู้ออกหุ้นกู้ ไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 66 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.66 ให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด วาระที่ 4 พิจารณาเหตุผิดนัดจากการที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิ ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิ

ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้กำหนดให้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ และผลกระทบที่ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับจากการมีมติอนุมัติ หรือไม่อนุมัติให้ชัดเจนในแต่ละทางเลือก พร้อมเหตุผลประกอบ โดยมีความเห็นของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ประกอบด้วย ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นกู้ในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลต่างๆ จากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนในการประกอบการตัดสินใจออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ด้วย ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นกู้ 3 รุ่นดังกล่าว มีเงินต้นค้างชำระรวม 6,957.40 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ STARK ถูกผู้ถือหุ้นกู้ 2 รุ่นแรก เรียกให้ชำระหนี้เงินต้นมูลค่า 2,241 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมดโดยพลันหรือให้ชำระหนี้ทันที ภายในวันที่ 2 ก.ค.66 ซึ่งการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 2 รุ่นแรก อาจส่งผลให้หุ้นกู้อีก 3 รุ่นเกิดการผิดนัดไปด้วย รวมทั้งเจ้าหนี้การเงินอื่นๆก็อาจใช้สิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้ทั้งหมดในลักษณะเดียวกัน.