เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมการบินโลกในช่วงที่ผ่านมามีตัวเลขปริมาณการขนส่งผู้โดยสารขยับขึ้นมาอยู่ที่ 86% ของไตรมาส 1/62 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด จะเห็นได้ว่ามีการฟื้นตัวชัดเจนโดยเฉพาะหลังจากประเทศจีนได้มีมาตรการผ่อนคลายการเดินทางออกนอกประเทศ
ขณะที่การฟื้นตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อเทียบปี 2562 มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็อยู่ในแนวโน้มการเติบโตนั้น อย่างไรก็ดี ตัวเลขจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ชี้ให้เห็นว่าในปี 2567 ปริมาณการเดินทางน่าจะกลับไปเท่ากับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้
นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ตามแผนในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 และกลับเข้าไปทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในปี 2568 ปัจจุบันบริษัทปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด พร้อมเร่งผลักดันการดำเนินงานให้ดีกว่าแผนที่วางไว้ ซึ่งเชื่อว่าหากผลประกอบการออกมาดีขึ้น อาจสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้เร็วกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1/66 สามารถเติบโตได้ดี และมีกำไรสุทธิติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สาม โดยมีจำนวนผู้โดยสารราว 3.5 ล้านคน และการใช้เครื่องบิน 12.3 ชั่วโมงต่อวัน หลังภาคการท่องเที่ยวในไทยเริ่มฟื้นตัว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวไตรมาสแรกปีนี้เข้ามากว่า 6.47 ล้านคน โดยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย รัสเซีย และจีนมากที่สุด
การฟื้นตัวที่ดีนี้ทำให้บริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนเครื่องบิน ประเภท A350-900 เพิ่มอีก 2 ลำ ในไตรมาส 2/66 และเพิ่มอีก 4 ลำ ภายในสิ้นปี ภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานเครื่องบิน เพื่อเพิ่มความถี่ในเส้นทางการบินที่ให้บริการอยู่ จากปัจจุบันมีเครื่องบินรวมทุกประเภท จำนวน 65 ลำ
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเพิ่มจุดบินในเส้นทางให้บริการอื่นๆ เพิ่มเติม โดยมองความเป็นไปได้ในการกลับมาเปิดจุดบินในประเทศจีนเพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการเข้ามามากขึ้น จากเป้าหมายเน้นการเชื่อมต่อเส้นทางการบินที่ครอบคลุม ซึ่งปัจจุบันให้บริการอยู่ 23 ประเทศ รวม 47 เส้นทางการบิน
สำหรับแผนการนำสายการบินไทยสมายล์กลับเข้ามาควบรวมกับบริษัท มองว่ากระบวนการเปลี่ยนผ่านนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมเน้นย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสาร โดยจะทยอยนำเครื่องบินจากไทยสมายล์กลับเข้ามารวมในฝูงบินของการบินไทย ในรอบแรกจะมีจำนวน 4 ลำ ทั้งนี้เพื่อสร้างผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดให้กับบริษัท.