ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานความเคลื่อนไหวของหุ้น บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO ราคาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยในวันนี้ลงมาอยู่ที่ 5.55 บาท ลดลง 2.35 บาท หรือลดลง 29.75% ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า OTO เคยทำจุดสูงสุดในวันที่ 30 พ.ค. ที่ 24.40 บาท หรือลดลงกว่า 90% ภายใน 10 วันทำการ
หากนักลงทุนถือหุ้น OTO จำนวน 1 แสนหุ้นในวันที่ 30 พ.ค. จะมีมูลค่า 2,440,000 บาท วันนี้จะเหลือเงินเพียง 500,000 บาท หรือ ขาดทุนมากกว่า 1,940,000 บาท
ทั้งนี้ OTO ทำธุรกิจให้บริการบริหารจัดการงานลูกค้าสัมพันธ์แบบเต็มรูปแบบ และให้บริการออกแบบพัฒนาและติดตั้งระบบศูนย์บริการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จให้แก่องค์กรภาครัฐและเอกชน และมีบริการให้เช่าอุปกรณ์ Contact Center และบริการให้เช่าซอฟต์แวร์ ทั้งซอฟต์แวร์สำเร็จรูป และซอฟต์แวร์ระบบ Contact Center ที่ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้เหมาะสมกับธุรกิจขององค์กรเพื่อให้บริการลูกค้า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศแจ้งเตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังและศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO) เนื่องจากมีสภาพการซื้อขายที่ผิดไปจากปกติ และพบการขายที่กระจุกตัว โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12 และ 13 มิถุนายน 2566
ปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดให้หลักทรัพย์ OTO อยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2566 เนื่องจากสภาพการซื้อขายผิดปกติโดยไม่มีปัจจัยสนับสนุน โดยเมื่อเข้ามาตรการ สภาพการซื้อขายลดความร้อนแรงลง อย่างไรก็ตามในวันที่ 12 และ 13 มิถุนายน 2566 พบว่าปริมาณการซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้น และพบการขายที่กระจุกตัว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้
ผู้ลงทุนพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขาย นอกจากนี้ ขอให้บริษัทสมาชิกทุกรายกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ OTO อย่างใกล้ชิดและเคร่งครัด เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้สอบถามข้อมูล ไปยังนายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ขอให้บริษัทชี้แจงเกี่ยวกับพัฒนาการที่สำคัญในระยะเวลาอันใกล้เนื่องจากราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาที่ลดลงในช่วงวันที่ 12 และ 13 มิถุนายน 2566 นั้น บริษัทขอเรียนว่า การเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น ของบริษัทดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจในปัจจุบันของบริษัท อย่างไรก็ดีหากบริษัทมีพัฒนาการที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญใดๆ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบ และจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป