ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ว่า ดัชนีหุ้นไทยดิ่งรุนแรงตั้งแต่เปิดตลาด ก่อนลงไปติดลบกว่า 23 จุด นักลงทุนกังวล โอกาสในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ซึ่งได้เสียงเลือกตั้งมากที่สุด เพราะแม้จะมีการจับมือทำ MOU 8 พรรคการเมือง แต่ยังไม่มีความแน่นอนหรือไม่มีความมั่นใจว่า ขั้วการเมืองฝั่งประชาธิปไตยนี้จะจัดตั้งรัฐบาลได้จริง เพราะยังมีกระแสว่า อีกขั้วฝั่งการเมืองก็มีความพยายามล็อบบี้จัดตั้งรัฐบาลเช่นกัน ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่มีความแน่นอนและความชัดเจน ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลต้องใช้เวลาลากยาว ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ต้องการแรงขับเคลื่อนต่อเนื่องล้วนส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้น
นักลงทุนมีความกังวลกับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจบางกลุ่มในตลาดหุ้น ทั้งนโยบายลดค่าไฟฟ้า และการผูกขาดของกลุ่มทุนพลังงาน นโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำที่กระทบต่อต้นทุนธุรกิจที่ใช้แรงงานจำนวนมาก ทำให้นักลงทุนชิงเทขายหุ้นออกมา เพื่อลดความเสี่ยง โดย หลังมีการเปิดเผย MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาลออกมา ไม่มีประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ประกอบกับมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นพื้นฐานดี ที่ราคาตกลงไปมาก จึงพยุงให้ดัชนีพลิกปรับตัวขึ้นมาปิดทำการได้ที่ระดับ 1,529.24 จุด บวก 14.35 มูลค่าการซื้อขาย 55,532.65 ล้านบาท
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบรายงานตลาดเงิน ตลาดทุนในประเทศที่ผันผวนขณะนี้ว่า เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเพียงระยะสั้น อยากให้นักลงทุนมองประเทศไทยจากศักยภาพที่แท้จริง เพราะมั่นใจในพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง.