หุ้น CPF ร่วงไม่หยุด ทำสถิติต่ำสุดรอบ 3 ปี โรคระบาดหมูกดดันอาจขาดทุนเพิ่ม

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้น CPF ร่วงไม่หยุด ทำสถิติต่ำสุดรอบ 3 ปี โรคระบาดหมูกดดันอาจขาดทุนเพิ่ม

Date Time: 18 พ.ค. 2566 09:10 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Latest


ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 17 พ.ค. 66 ราคาหุ้นอยู่ที่ 19.40 บาท ปรับตัวลดลง 0.40 บาท หรือ 2.02% โดยการปรับตัวลดลงของราคาวันนี้นับเป็นการต่ำสุด นับจากวันที่ 9 มี.ค. 2563 ที่ 18.70 บาท หรือลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี

 

ทั้งนี้การปรับตัวลดลงสะท้อนความกังวลในเรื่องปัญหาผลการดำเนินงานที่ขาดทุนในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ที่บริษัทขาดทุน 2,725 ล้านบาท จากปีก่อนที่บริษัทมีกำไร 2,842 ล้านบาท โดยนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง เปิดเผยว่า เราประเมินความเคลื่อนไหวของหุ้น CPF ยังคงเผชิญความท้าทายอย่างมาก จากผลการประชุมนักวิเคราะห์กับผู้บริหารบริษัทในช่วงที่ผ่านมา

พบว่าอุปทานหมูไทยในปี 2566 คาดว่าจะกลับไปที่ 17.5 ล้านตัว ส่งผลให้ราคาหมูไทยลดลงมาอยู่ที่ 76 บาทต่อกิโลกรัม ณ ปัจจุบัน ผู้บริหารมองว่าถ้าโรคระบาดในหมูกลับมาระบาดมากขึ้นในครึ่งปีหลัง และมีความเสียหายเยอะ ราคาหมูไทยอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน แต่ถ้าความเสียหายน้อย ราคาอาจทรงตัว ราคาหมูเวียดนามฟื้นตัวเล็กน้อยจาก 5 หมื่นดองต่อกิโลกรัม ในไตรมาสที่ 1 มาอยู่ที่ 5.4 หมื่นดองต่อกิโลกรัม ณ ปัจจุบัน เนื่องจากกำลังซื้อที่เริ่มกลับมา

 

 

ผู้บริหาร มองว่า ทิศทางการฟื้นตัวของราคาหมูเวียดนามน่าจะต่อเนื่องไปในไตรมาสที่  2 และในครึ่งปีหลัง ผู้บริหารยังคงมองว่าราคาหมูจีนมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากรัฐบาลจีน ที่คาดว่าจะเข้าแทรกแซงซื้อหมูเข้าสต๊อกเพิ่มขึ้น บวกกับคาดว่ากำไรของ CTI มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนเลี้ยงต่อหน่วยที่จะลดลงจากการผลิตเต็มคาปาซิตี้ และการหันไปทำสินค้าชำแหละและแปรรูปมากขึ้นในครึ่งปีหลัง ตลาดไก่ส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

 

โดยผู้บริหารเห็นคำสั่งซื้อจาก ตปท. ที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ จากปริมาณสต๊อกของลูกค้าที่เริ่มลดลงในช่วงไตรมาสที่ 2 เห็นออเดอร์ที่เข้ามาในเดือน พ.ค.-มิ.ย. เพิ่มขึ้นและคาดว่าออเดอร์จากญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง วอลลุมส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 5-7% ในช่วงครึ่งปีหลัง ราคาหมูกัมพูชาคาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและดีขึ้น ขณะที่ HyLife และ Bellisio จะยังคงไม่กำไรภายในปี 2023 แต่จะเห็นภาพของผลขาดทุนที่ลดลง 

 

อย่างไรก็ตามเรามองว่าผลประกอบการหลักถ้าเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในช่วงไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 3 จะยังคงแย่ลงจากปีก่อน เนื่องจากฐานกำไรหลักในช่วงปี 2565 ที่สูงมาก ดังนั้นภาพของการฟื้นตัวจึงเป็นเพียงแค่การกลับไปขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อน และการพลิกกลับไปกำไรในไตรมาสที่ 3 แม้ว่าสัญญาณราคาหมูจีนจะยังคงไม่ฟื้นตัว ณ ปัจจุบัน แต่เราเริ่มเห็นสัญญาณของราคาหมูเวียดนามที่กลับมาฟื้นตัวบ้างในเดือน พ.ค. และเนื่องจากขาดทุนหลักในไตรมาสที่ 1 ที่มากกว่าคาด เราจึงอยู่ระหว่างการปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2566 ลงจากเดิม ถึงแม้ว่าเรายังคงคำแนะนำ TRADING BUY.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์